วันที่ 23 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้ใช้เฟสบุครายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า ผู้เสียชีวิตชาย อายุ 50 ปี อาศัยอยู่กับพ่ออายุประมาณ 80 กว่าปี เพียง 2 คน เพราะแม่เสียชีวิตไปแล้ว ผู้เป็นพ่อตาบอดหนึ่งข้าง ไม่มีรายได้ ฐานะทางบ้านยากไร้ มีเพียงเบี้ยเลี้ยงคนชรากินเดือนละ 600 บาท ผู้เป็นลูก เสาหลักของครอบครัวได้เสียชีวิตลง จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ จากพี่น้องประชาชนทุกๆท่าน ร่วมเป็นเจ้าภาพสมทบทุนช่วยเหลือ สวดอภิธรรม/ฌาปนกิจสงเคราะห์ และทราบต่อมาว่าศพรายดังกล่าวตั้งอยู่ศาลาวัดท่ากกโพธิ์ ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังจัดเตรียมอาหารสำหรับเลี้ยงแขกที่จะมาร่วมฟังพระสวดอภิธรรมศพในคืนนี้ สำหรับบรรยากาศงานศพจัดแบบเรียบง่าย มีดอกไม้กระดาษประดับไว้หน้าโลงเย็น

นายปอน หงษา อายุ 75 ปี พ่อของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่าเมื่อตอนเป็นวัยรุ่นตนก็มีบ้านอยู่ในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักแต่พี่ชายได้ขายไปหมดแล้วและพี่ชายก็เสียชีวิตไปนานแล้วทำให้ตนไม่มีที่อยู่อาศัยต้องเอาชื่อไปฝากไว้ในทะเบียนบ้านของคนที่รู้จักและเช่าบ้านสำหรับอยู่อาศัย ส่วนภรรยาได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ปัจจุบันอยู่กับลูกคนที่เสียชีวิตนายอรรนพ หงษา อายุ 50 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นป่วยติดเตียงเพราะเส้นเลือดในสมองตีบ ตนจึงทำงานเลี้ยงลูกเพียงคนเดียวโดยมีอาชีพขับสามล้อ แทบไม่มีลูกค้าเลย เฉลี่ยจะมีรายได้ประมาณวันละ 30 – 50 บาท ต้องใช้จ่ายแบบประหยัด และเนื่องจากตนมีความพิการมองเห็นตาซ้ายข้างเดียวเนื่องจากตาขวาบอด อีกทั้งยังป่วยเป็นโรคหลายโรคจึงทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ก็ยังโชคดีที่ยังมีเพื่อนบ้านก็นำอาหารมาแบ่งปันให้ นอกจากรายได้จากขับสามล้อแล้วก็มีรายได้เดือนละ 1,500 บาท ซึ่งเป็นเงินเบี้ยคนชรา 700 บาท เงินคนพิการ 800 บาท แต่ก็มีค่าใช้จ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,000 บาท ค่าไฟ 200 บาท เหลือ 300 บาท ก็ต้องพยายามเจียดเงินใช้อย่างประหยัด

นายปอน หงษา เปิดเผยอีกว่าในช่วงที่ลูกป่วยหลายเดือนตนต้องแข็งใจออกไปทำงานขับสามล้อเพื่อจะได้หาเงินมาซื้อของกินให้ลูก ทำให้ตนซึ่งป่วยหลายโรคและหมอได้นัดไปพบ ทำให้ตนไม่สามารถไปหาหมอได้หลายเดือนแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้อาการของโรคในตัวเป็นอย่างไรบ้าง และในเช้าวันนี้ลูกชายได้นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้าน ระหว่างนั้นตนก็ได้แต่นั่งครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับศพของลูก แรกทีเดียวจะไปขอความเมตตาจากทางวัดขอให้วัดช่วยเผาลูกเลยโดยไม่ต้องจัดงานศพ ไม่ต้องสวดใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่มีเงินติดตัวเลย แต่เมื่อเพื่อบ้านรู้ก็ได้มาช่วยกันออกเงินคนละเล็กคนละน้อยในการจัดงานศพให้ลูกชายตนเอง ซึ่งก็จะสวดพระอภิธรรมคืนนี้เพียงคืนเดียวแล้วก็จะทำพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้เวลาประมาณ 15.00 น. ณ เมรุวัดท่ากกโพธิ์ ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

ชาวบ้านที่มาช่วยงานเล่าว่าผู้ตายและพ่อมีฐานะยากจน ที่ผ่านมาเพื่อนบ้านก็คอยช่วยเหลือแบ่งปันอาหารให้บ้าง เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกชาย พ่อไม่มีจัดงานศพ เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวจึงได้ช่วยกันรวบรวมเงินช่วยกันจัดงานศพให้ หรือท่านที่จะใจบุญจะร่วมสมทบทุนสำหรับจัดงานศพหรือเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับลุงปอนในอนาคต

ข่าวโดย อารีย์ สีแก้ว ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเพชรบูรณ์