ดีเอสไอ พบเส้นทางเงิน คดีฟอกเงิน Forex3D โยงกลุ่มนักแสดง-ดีเจ 8ราย จ่อออกหมายเรียก

ดีเอสไอ พบเส้นทางเงิน คดีฟอกเงิน Forex3D โยงกลุ่มนักแสดง-ดีเจ 8ราย จ่อออกหมายเรียก

วันที่ 21 ก.ค. 2566 สำนักข่าวดังเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงเกี่ยวกับคดี Forex-3D ระบุว่า กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ มีการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษที่ 42/2566 กรณีในความผิดฐานฟอกเงินและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สืบเนื่องจากการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 กรณีการชักชวนผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อ Forex-3D และบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Apirak Krub (นายอภิรักษ์ โกฎธิ) ให้ลงทุนนำเงินไปซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างๆ (Forex) โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60-80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรดฟอเร็กซ์และประกันเงินต้นที่ร่วมลงทุนร้อยละ 100 ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

จากการสอบสวนพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกลุ่มดารานักแสดงและดีเจ พร้อมผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์เบื้องต้น จำนวน 8 คน ร.ต.ท.เสฎฐวุฒิ สายป้อง ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3 ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบสำนวนการสอบสวน ได้รายงานต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ทราบและเห็นชอบให้ออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวมาให้ข้อเท็จจริง สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนในความผิดฐานฟอกเงินที่เกี่ยวกับกรณี Forex-3D คดีแรก เป็นคดีพิเศษที่ 36/2563 มูลค่าความเสียหาย 325,497,221.11 บาท ซึ่งมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายอภิรักษ์ โกฎธิ กับพวก รวม 9 คน และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้ว

โดยถือเป็นคดีฟอกเงิน Forex-3D ภาค 1 ต่อมาปรากฏข้อมูลการข่าวว่ายังมีบุคคลที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าวที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ไม่ว่าเป็นการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน กระทำการใดๆ เพื่อปกปิดอำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ รวมไปถึงการได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินโดยรู้ในขณะได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

ซึ่งอาจเป็นความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงรับเป็นคดีพิเศษที่ 42/2566 โดยถือเป็นคดีฟอกเงิน Forex-3D ภาค 2 การออกหมายเรียกนี้ เป็นการเชิญมาให้ข้อเท็จจริงถึงนิติกรรมที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินที่ตรวจพบว่ามีที่มาอย่างไร และประกอบกับพยานหลักฐานอื่นที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษรวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อประกอบการสืบสวนสอบสวนต่อไป กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ขอเรียนว่าแชร์ลูกโซ่หรือการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนเป็นภัยทางเศรษฐกิจของประเทศ ปัจจุบันมีการหลอกลวงประชาชนเพื่อให้ลงทุนในธุรกิจต่างๆ โดยเสนอผลตอบแทนสูงจำนวนมาก

และมักใช้รูปแบบการลงทุนที่กล่าวอ้างถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การใช้ AI Artificial Intelligence หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ มาช่วยในการตัดสินใจลงทุน โดยมีการรับประกันเงินลงทุนร้อยละร้อย เป็นการลงทุนที่ซับซ้อน และเชื่อมโยงกับต่างประเทศ มีการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้แทนเงินตราจริงในการลงทุนเพื่อให้ดูว่าเป็นเรื่องทันสมัย ขณะเดียวกันก็ทำให้ยากแก่การทำความเข้าใจของผู้เสียหายทั่วไป และทำให้เกิดกลุ่มผู้กระทำผิดรายใหม่ๆ ที่เข้ามาทำหน้าที่นายหน้าแปลงเงินตราจริงเป็นเงินดิจิทัลทำให้การกระทำผิดมีความซับซ้อนขึ้น รวมทั้งมีการชักชวนให้ซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ หรือ FOREX

ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยไม่เคยอนุญาตให้เอกชนรายใดดำเนินธุรกิจดังกล่าว และการดำเนินธุรกิจโดยฝ่าฝืนกฎหมาย จะเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งสามารถตรวจสอบการอนุญาตเรื่องดังกล่าวได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในการประเมินความเสี่ยงก่อนการลงทุน กรมมอบสวนคดีพิเศษ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้จัดทำระบบ LINE Official เพื่อตอบคำถามข้อสงสัยในการลงทุนชื่อ“Checkdidsi”

โดยสามารถเข้าไปเป็นสมาชิกได้ที่ ที่ LINE  เพิ่มเพื่อน ค้นหา  @Checkdidsi หรือไปยังเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th ข้อมูลกราฟฟิก ซึ่งจะมีแหล่งให้ข้อมูลความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นภัยสังคมโดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ มีความมุ่งมั่นในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับธุรกิจการเงินนอกระบบอย่างมืออาชีพ มีวิสัยทัศน์ และใส่ใจให้บริการ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ