สาวโลกสองใบ อวดรวยชีวิตดี ที่แท้ความจริงเป็นคนใช้ เจ้านายแฉยับ

สาวโลกสองใบ อวดรวยชีวิตดี ที่แท้ความจริงเป็นคนใช้ เจ้านายแฉยับ

เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ asiaone รายงานว่า มีเรื่องราวของหญิงรายหนึ่งตกเป็นประเด็นฉาวบนโซเซียลมีเดีย ภายหลังจากมีหญิงอีกรายออกมาแฉอย่างดุเดือดอ้างว่า เธอเป็นเจ้านายของหญิงรายนั้น เธอจับได้ว่าสาวรับใช้ของเธอใช้ชีวิตแบบโลกสองใบ หลอกลวงผู้คนบนโลกออนไลน์ว่าเป็นคนรวย มีชีวิตชีวิตดี แต่ในชีวิตบนโลกความจริงกลับเป็นเพียงแค่ สาวรับใช้

ตามรายงานระบุว่าเธอชื่อ นานา ได้โพสต์คลิปวิดีโอเปิดเผยวีรกรรมของสาวใช้ลูกจ้างชาวเมียนมา โดยกล่าวหาว่าสาวใช้รายนี้แอบขโมยข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของเธอ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมไปถึงชุดชั้นใน เพื่อใส่ไปถ่ายอวดลงบัญชีโซเชียลของตัวเอง ทั้งทาง Facebook และ TikTok โดยเธอจับได้หลังจากที่พบว่า เสื้อผ้าของเธอเหล่านั้นถูกระเบิดไซซ์จนปริ จากการที่มีคนพยายามยัดตัวลงไป

โดย ลูกจ้างรายนี้ยังโพสต์ TikTok สร้างภาพการใช้ชีวิตว่า เป็นนักศึกษามีเงินมาเรียนที่สิงคโปร์ ส่วนบ้านที่ถ่ายให้เห็นว่าเป็นอพาร์ตเมนต์เช่าของตัวเองนั้น แท้จริงแล้วเป็นบ้านของเธอ ลูกจ้างรายนี้มีโอกาสมาอาศัยเพียงเพื่อทำงานบ้าน แต่กลับใช้แอบอ้างว่าเป็นที่พักของตัวเอง อีกทั้งยังแอบใช้รถของสามีเธอถ่ายคอนเทนต์ลง TikTok และทำให้เบาะรถเสียหายด้วย

ทางเจ้านายรู้สึกตกใจมากเมื่อรู้ความจริงของลูกจ้างรายนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี ทั้งซื้อของขวัญ มีของฝากมาให้ตลอด และยังเคยพาไปกินข้าวที่ร้านอาหารดี ๆ เพื่อฉลองวันเกิด ไม่คิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้ลูกจ้างสาวเกิดความทะเยอทะยานแบบผิด ๆ มาสร้างเรื่องราวหลอกลวงคนอื่นเช่นนี้

จุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้านายรายนี้รู้สึกไม่สบายใจคือ เธอจับได้ว่าลูกจ้างสาวแอบมาหยิบของใช้ของเธอ และโกหกหลายครั้ง เมื่อจับได้เธอก็บอกให้หยุด และยังให้โอกาส แต่ลูกจ้างสาวก็ยังทำต่อ จนเธอจับได้ว่าแอบมาขโมยของเธอถึง 3 ครั้ง แต่ลูกจ้างสาวกลับแสดงความโกรธแค้น ถึงขั้นขู่ว่าจะฆ่าตัวตายกระโดดลงมาจากอพาร์ตเมนต์ของเธอ

ในที่สุดลูกจ้างสาวรายนี้ก็ถูกส่งตัวกลับบ้านของเธอ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ยอมลบบัญชีโซเชียล และยังสร้างคอนเทนต์หลอกลวงผู้คนต่อไปเรื่อย ๆ ทำให้ทางนายจ้างต้องออกมาเปิดโปงความจริง และขู่ว่าจะไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ภายหลังจากคลิปวิดีโอการแฉลูกจ้างสาวครั้งนี้ถูกเผยแพร่แชร์ต่อกัน ผู้ใช้โซเชียลก็ให้ความสนใจเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จนกลายเป็นประเด็นไวรัลร้อนแรง ทว่าต่อมา คลิปวิดีโอเหล่านั้นก็ถูกลบหายไปทั้งหมด และไม่แน่ชัดว่าสถานการณ์หลังจากนั้นเป็นเช่นไรต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ