ลูกป่วยสิ้นใจก่อนสิงร่างหลาน บอกตอนค่ำจะมารับแม่ไปอยู่ด้วย สุดท้ายจากไปจริงๆ

ลูกป่วยสิ้นใจก่อนสิงร่างหลาน บอกตอนค่ำจะมารับแม่ไปอยู่ด้วย สุดท้ายจากไปจริงๆ

ที่ศาลาวัดคลองน้ำเจ็ด ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง บรรดาญาติพี่น้องร่วมกันตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นางเรียง ปัญญาโชติกุล (รักราวี) หรือย่าเรียง อายุ 99 ปี พร้อมกับลูกสาวคือ น.ส.ละออง ปัญญโชติกุล หรือสาวนุ้ย อายุ 73 ปี หลังจากที่ทั้งคู่แม่ลูก เสียชีวิตลงในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเสียชีวิตห่างกันเพียงแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้น

โดยน.ส.ละออง เสียชีวิตลงในเวลา 12.45 น. ที่รพ.ตรัง ส่วนนางเรียง (แม่) เสียชีวิตลงในเวลา 19.34 น. ที่บ้านพักบริเวณใกล้กับวัดคลองน้ำเจ็ด พร้อมทั้งหลังจากที่ลูกสาวเสียชีวิตลง ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเสียชีวิต เกิดเรื่องราวที่สุดแปลกประหลาด คือลูกสาวที่เสียชีวิตลงไปแล้วนั้น วิญญาณมาสิงในร่างของ น.ส.จันทนา ปัญญาโชติกุล หรือนุช อายุ 40 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของคุณย่า พร้อมกับร้องไห้เสียใจ บอกว่า

เป็นห่วงแม่ วันนี้ตอนค่ำ จะมารับไปอยู่ด้วย เพราะถ้าไม่พาไปด้วย แม่ก็ไม่รู้จะอยู่กับใคร เพราะลูกคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัวหมดแล้ว พร้อมกับสั่งเสียระบายสิ่งต่างๆที่ไม่เคยพูดตอนยังมีชีวิต แต่คุณย่าก็ยังคงไม่เชื่อ เพราะไม่มีเหตุการณ์อะไรที่จะบ่งบอกว่า น.ส.ละอองจะมาเสียชีวิตลงง่ายๆ ลงไปเช่นนี้

ขณะที่ น.ส.จันทนา หลานที่ถูกลูกของคุณย่าเข้าผ่านร่าง บอกว่า เดินออกจากวัด เดินไปหาคุณย่าที่บ้าน ก็เห็นญาติพี่น้องนั่งข้างๆคุณย่าอยู่ ตนจึงเข้าไปกอด และหลังจากนั่งก็รู้สึกได้อย่างเดียวคือร้องไห้ แต่รับรู้ได้ว่าไม่ใช่ตนที่ร้อง เพราะปกติตนจะไม่ร้องไห้ขนาดนั้น ซึ่งเสียงร้องไห้คนภายในวัดยังได้ยิน

ส่วนคำพูดที่พูดออกไปไม่รู้เลยว่าร่างของตนเป็นคนพูด และตนก็มีอาการไม่รู้สึกตัว ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่นาน ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เป็นความเชื่อของคนในครอบครัว แต่ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เพราะปกติแล้วคุณย่าก็มีเชื้อสายของมโนราห์แป้น ซึ่งเป็นมโนราห์แท้ๆ เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม งานบำเพ็ญกุศลศพตั้งโลงคู่กัน ซึ่งจะเริ่มงานวันที่ 15-16 ก.ค.66 ประชุมเพลิงวันที่ 17 ก.ค.66 เวลาประมาณ 13.00 น. โดยจะเผาทีละคน ซึ่งภายในงานใช้โลงกนกโบราณ ตกแต่งสวยงาม และติดรูปของทั้งคู่ที่เป็นความผูกพันในขณะที่มีชีวิตอยู่ และผู้ที่มาร่วมงานต่างก็มองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความรักความผูกพันกันจริงๆระหว่าง 2 แม่ลูก

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ