จากกรณีเกิดเหตุรถทัวร์ขนนักกีฬา สุรนารี เทรล เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางขึ้นผาพญากูปรี เทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บอีก 48 คน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ก.ค. 66 ที่เมรุวัดป่าหนองบอน บ้านซำตาโตงตะวันออก ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง และในฐานะเจ้าของรถบัสที่ใช้ขนนักวิ่ง สุรนารี เทรล คันเกิดเหตุ ได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัยและร่วมสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลศพ น.ส.อรทัย จำปาทอง อายุ 39 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว

โดย พระครูโกศลสิกขกิจ กล่าวว่า ในส่วนของการเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าวนั้น ต้องรอคุยกับทางเจ้าหน้าที่ทหาร เพราะงานที่จัดขึ้นเป็นงานของทหาร ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางวัดเพียงแค่สนับสนุนรถตามที่ได้รับการประสานขอความอนุเคราะห์มาเท่านั้น ทั้งนี้ในส่วนของอาตมาก็ได้ออกไปแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว

ด้าน น.ส.อุไรลักษ์ จำปาทอง อายุ 37 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดกับครอบครัวตน ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งอ้างตนว่าเป็นหมอจากโรงพยาบาลในจังหวัดหนึ่ง และเป็นผู้แทนบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง โทรศัพท์เข้าเครื่องของพ่อตน บอกว่า น.ส.อรทัย ผู้ตาย ได้ทำประกันชีวิตไว้ พ่อไม่สะดวกพูดสายจึงได้นำโทรศัพท์มาให้ตนเป็นคนรับสายแทน โดยมีการพูดคุยเป็นภาษาอีสาน อ้างว่า น.ส.อรทัย ผู้ตาย ได้แบ่งจ่ายเบี้ยประกันภัยเป็น 2 งวดต่อปี งวดแรกจ่ายเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา จำนวน 5,000 บาท ยังคงค้างจ่ายงวดที่เหลืออีก จำนวน 4,450บาท โดยให้ตนโอนจ่ายส่วนที่เหลือมาทางเลขที่บัญชีที่ได้ระบุมา ภายใน 30 นาที เพื่อรับสิทธิ์ในการรับทุนประกันจำนวน 200,000 บาท ซึ่งตนได้สอบถามไปยังเพื่อนร่วมงานและบุคคลใกล้ชิดกับ น.ส.อรทัย ผู้ตาย ไม่พบว่ามีการทำประกันชีวิตตามที่ชายคนดังกล่าวโทรมาอ้างแต่อย่างใด จึงคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างแน่นอน ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก เพราะถือว่าเป็นการตอกย้ำความสูญเสีย ในส่วนของเรื่องเยียวยานั้นหลังเสร็จสิ้นงานศพแล้วก็จะได้มีการพูดคุยรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่ง

ข่าวโดย ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด ศรีสะเกษ