ผู้เสียหายรวมตัวเข้าร้องกองปราบฯ โดนนายหน้าหลอกโอนเงิน บอกจะพาไปทำงานที่เกาหลี

ผู้เสียหายรวมตัวเข้าร้องกองปราบฯ โดนนายหน้าหลอกโอนเงิน บอกจะพาไปทำงานที่เกาหลี

วันที่ 28 มิ.ย.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน นายธมะนันท์ แตงทิม แอดมินเพจ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ พาชาวบ้าน จ.อุบลฯ 10 คน เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปราม กรณีถูกหลอกไปทำงานที่เกาหลี เสียค่านายหน้าหัวละ 3-5 หมื่นบาท รวมความเสียหายกว่า 1 ล้านบาทและพบว่ายังมีผู้เสียหายกลุ่มอื่นๆที่ถูกหลอกไปในลักษณะเดียวกันที่ประเทศเดียวกันอีกเป็นจำนวนมาก

นางจันทรจร 1 ในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการชักชวนจากเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกันตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนปี 2565 ว่ามีนายหน้าคนหนึ่งที่ต้องการหาคนงานจำนวน 6-7 คนไปทำงานเก็บสาลี่และแอปเปิ้ลที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยจะได้ค่าจ้างเป็นจำนวนมากกว่าแรงงานขั้นต่ำในประเทศไทย โดยผู้ที่ชักชวนยังยืนยันว่าสามารถเดินทางไปได้จริงเพราะเคยเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้มาแล้ว

ด้วยเห็นว่ามีคนสามารถเดินทางไปทำงานได้จึงตัดสินใจพูดคุยตกลงกันก็พบนางสาวฤดีชนกซึ่งอ้างว่าตนเองมีสามีเป็นชาวเกาหลีสามารถช่วยประสานงานกับ agency หางานในประเทศเกาหลีใต้ได้โดยจะได้รับวีซ่าทำงานไม่ต้องใช้วีซ่านักท่องเที่ยวซึ่งจะต้องไปกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมายหรือผีน้อยในพื้นที่ โดยในช่วงแรกนายหน้าคนดังกล่าวให้โอนเงินค่าดำเนินการ 15,000 บาท จากนั้นก็ได้รับแจ้งว่าทั้ง 10 คนสามารถเดินทางไปทำงานได้แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการออกวีซ่าทำงาน และค่าตั๋วเครื่องบินรวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 93,000 บาท

อีกทั้งยังมีการโชว์เอกสารและตั๋วเครื่องบินมาให้ด้วยความเชื่อใจจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้ แต่เมื่อถึงวันเดินทางนายหน้าคนดังกล่าวกลับแจ้งว่าติดปัญหาเรื่องการเดินทางและการดำเนินการทางราชการในประเทศเกาหลียังไม่สามารถเดินทางไปได้และขอเลื่อนเดินทางออกไปก่อน จากนั้นก็มีการพักผ่อนไม่ยอมคืนเงินให้อีกหลายครั้งโดยอ้างว่าเป็นปัญหาจากการดำเนินการในต่างประเทศ จนเวลาล่วงเลยข้ามปีจึงเห็นว่าน่าจะถูกหลอกจึงตัดสินใจรวมตัวผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดังกล่าว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไปยังเพื่อนบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันซึ่งเคยไปทำงานกับนายหน้าคนดังกล่าวก็ได้ทราบความจริงว่าทั้งหมดได้เดินทางไปด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวและทำงานเป็นแรงงานผิดกฎหมายหรือผีน้อยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ และยังทราบว่ามีกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกเป็นจำนวนมาก

โดยก่อนที่จะเดินทางมาแจ้งความในวันนี้ได้ติดต่อไปพูดคุยกับนายหน้าคนดังกล่าวก็ได้รับคำตอบเชิงท้าทายว่า ให้ไปแจ้งความได้เลยตามสบายจึงอยากให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวและเรียกร้องค่าเสียหายให้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนให้กับผู้เสียหาย เพราะขณะนี้หลายคนได้รับความเดือดร้อนจากเงินที่นำไปจ่ายให้กับนายหน้าเพราะเป็นการกู้หนี้ยืมสินหรือนำเงินออมทั้งชีวิตมาใช้จึงอยากให้นายหน้าคนดังกล่าวออกมารับผิดชอบ อีกทั้งยังประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้เสียหายรายอื่นๆซึ่งอาจถูกนายหน้าคนดังกล่าวหลอกลวงในลักษณะเดียวกันให้เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมเพื่อจะได้เอาผิดไปพร้อมกัน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ป.สอบปากคำผู้เสียหายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ