แปลกแต่จริง เรื่องบังเอิญ เรือดำน้ำไททัน-ไททานิค

แปลกแต่จริง เรื่องบังเอิญ เรือดำน้ำไททัน-ไททานิค

จากกรณีการค้นหาเรือดำน้ำนำเที่ยว ไททัน ของบริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์เพดิชันส์ ซึ่งนำกลุ่มมหาเศรษฐี 5 คน ดำดิ่งไปชมซากเรือไททานิก ในเขตทางเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก แล้วขาดการติดต่อกับศูนย์ปฏิบัติการ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทางการจากทั้งสหรัฐและแคนาดา กำลังร่วมมือกันในการค้นหาเรือดำน้ำไททัน ที่ขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในระหว่างดำลงสู่ก้นทะเลเพื่อชมซากเรือไททานิก ที่ความลึกราว 3,800 เมตร

เรื่องบังเอิญ จุดเชื่อมโยงระหว่าง เรือดำน้ำไททัน ที่คล้ายคลึงกับไททานิคหลายอย่าง

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 เมษายน 1912 เรือไททานิคได้ออกเดินทางจากเซาแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ มุ่งหน้าไปที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยผู้โดยสาร 2,240 ชีวิต

นักเดินทางส่วนใหญ่บนเรือล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญ ประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ระดับสูง นักอุตสาหกรรม นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง บุคคลสำคัญทางการเมือง และคนดังมากมาย อีกทั้งยังมีผู้โดยสารที่ร่ำรวยที่สุดคือ John Jacob Astor IV ทายาทตระกูล Astor เดินทางไปกับเรือลำนี้อีกด้วย

กระทั่งในวันที่ 14-15 เมษายน 1912 เรือไททานิคได้จมลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ คร่า 1,500 ชีวิต กลางน้ำทะเล โดยมีผู้รอดชีวิตกลับมาเพียง 700 คนเท่านั้น

ทางด้านเรือดำน้ำไททันที่กำลังสูญหายในขณะนี้ แม้จะมีผู้โดยสารเพียงแค่ 5 คน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้ง 5 คน ประกอบไปด้วยเศรษฐีและบุคคลสำคัญทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น สองพ่อลูกเศรษฐีนักธุรกิจ, นักสำรวจระดับโลก, อดีตนักดำน้ำกองทัพเรือฝรั่งเศส และ ผู้ก่อตั้ง/ประธานบริหาร Oceangate หรือผู้สร้างเรือดำน้ำไททัน

ชื่อของเรือไททัน-ไททานิค มีความคล้ายคลึงกัน

อีกหนึ่งความเหมือนที่ชาวเน็ตหลายคนสังเกตเห็น คือความคล้ายคลึงกันระหว่างชื่อของเรือดำน้ำไททันและไททานิค โดยหากสะกดเป็นภาษาอังกฤษ จะได้คำว่า Titan และ Titanic ซึ่งความแตกต่างกันใน 2 ตัวสุดท้ายเท่านั้น

ภรรยาเจ้าผู้ก่อตั้งเรือดำน้ำไททัน เป็นทายาทของผู้โดยสารเรือไททานิค

อีกหนึ่งข้อมูลล่าสุดที่ช็อกคนทั้งโลก ก็คือชื่อของ “เวนดี้ รัช” (Wendy Rush) ภรรยาสาวของผู้ก่อตั้งโอเชียนเกต ซึ่งแท้จริงแล้วเธอเป็นหลานของผู้โดยสารที่เสียชีวิตบนเรือไททานิคเมื่อปี 1912

มีรายงานว่า เวนดี้เป็นหลานของ อิซาดอร์ สเตราส์’ (Isador Straus) เจ้าของห้าง Macy’s โดยในตอนนั้นสเตราส์ถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุด และเป็นหนึ่งในเศรษฐีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไททานิคพร้อมกับสามี

ทั้งนี้เคยมีคนในเหตุการณ์เล่าว่า ทั้งคู่ปฏิเสธชูชีพและคอยช่วยเหลือให้เด็ก ๆ ในเรือได้รอดชีวิต ก่อนที่สองสามีภรรยาจะจมลงไปพร้อมกับเรือ โดยมีผู้พบเห็นทั้งคู่ครั้งสุดท้าย บนดาดฟ้าก่อนที่ไททานิคจะจมลงไป

ความไม่พร้อมของอุปกรณ์บนไททานิค-เรือดำน้ำไททัน

เป็นที่รู้กันว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตบนเรือไททานิคเยอะ นั่นก็เพราะความไม่พร้อมของอุปกรณ์ยามฉุกเฉิน กล่าวคือขณะที่เกิดเหตุ บนเรือไททานิคมีเรือชูชีพไม่เพียงพอต่อผู้โดยสาร

มีการรายงานว่าบนเรือไททานิคมีเรือชูชีพเพียงแค่ 20 ลำเท่านั้น โดยรวมทั้งหมดสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพียง 1,178 คน จากทั้งหมดกว่า 2,240 คน อีกทั้งผู้อยู่ในเหตุการณ์ยังระบุว่า เรือลำแรก ๆ ที่ออกไปก่อนไททานิคจม บรรทุกผู้โดยสารไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ

นอกจากนี้แล้วบนไททานิคยังขาดกล้องส่องทางไกล ทำให้มองไม่เห็นภูเขาน้ำแข็ง อีกทั้งยังได้มีการยกเลิกการซ้อมเหตุฉุกเฉินในวันก่อนการเดินทางอีกด้วย

ทางด้านเรือดำน้ำไททันเอง ก็มีจุดหละหลวมอยู่หลายอย่าง ประการแรกคือ เรือดำน้ำลำนี้ไม่ได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงานไหนเลย อีกทั้งยังมีออกซิเจนให้หายใจไม่ถึง 100 ชั่วโมง และประตูสามารถเปิดได้จากด้านนอกเท่านั้น โดยเรือดำน้ำลำนี้บังคับด้วยจอยเล่นเกมเพียงอย่างเดียว และมีการรายงานว่า อดีตพนักงานของบริษัทเคยเตือนว่าเรือดำน้ำยังไม่ปลอดภัยมากพอให้ลงไปในน้ำลึก 4,000 เมตรด้วย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. สื่อต่างประเทศ สกายนิวส์ ได้รายงานว่า เพื่อนของผู้โดยสาร 2 คนในเรือดำน้ำไททัน ยืนยันหลังเห็นภาพจากหน่วยยามชายฝั่งสหรัฐฯว่า เศษซากชิ้นส่วนที่ถูกพบใกล้ซากเรือไททานิกนั้น เป็นชิ้นส่วนบังคับลงจอดและส่วนท้ายของเรือดำน้ำไททัน

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า หน่วยยามชายฝั่งสหรัฐฯเตรียมแถลงถึงเรื่องดังกล่าวในเวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก @SkyNews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ