ส่งย่าน้องเตยไปตรวจตาหวังรักษาได้ ครูเผยมีคนจะรับส่งเรียน ล่าสุดเงียบหาย

ส่งย่าน้องเตยไปตรวจตาหวังรักษาได้ ครูเผยมีคนจะรับส่งเรียน ล่าสุดเงียบหาย

วันที่ 12 มิ.ย.66 น.ส.พัชรินทร์ เอสะตี หรือครูอุ้ม อายุ 34 ปี ครูโรงเรียนบ้านมะขามทานตะวัน ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ โพสต์คลิปภาพ ของ ด.ญ.สุธีมมนต์ จินดาศรี หรือน้อยเตย อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ขณะล้างจานที่บ้าน พร้อมบรรยายชีวิตของน้อง ที่ต้องดูแลย่าของตัวเองวัย 68 ปีที่ตาบอดทั้งสองข้างตามลำพัง ผ่าน Tik Tok

ทำให้เพียงข้ามคืนมีผู้เข้าชมคลิปนี้ถึงกว่า 10 ล้านวิว และมีคนสนใจสอบถามหาข้อเท็จจริงและอยากช่วยเหลือน้องเตย เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบ พบว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง

ต่อมาได้มีหลายหน่วยงานทั้งนายอำเภอห้วยราช ,พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พมจ.)สาธารณสุขอำเภอห้วยราช,ตำรวจ สภ.ห้วยราช ,นายก อบต.ตาเสา ,พัฒนาชุมชน บุรีรัมย์,รวมถึงภาคี 7 ภาค เข้าไปเยี่ยม นำสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นไปมอบให้เป็นจำนวนมาก

เบื้องต้นสาธารณสุขอำเภอ ได้พาย่าน้องเตย ไปตรวจดวงตาที่โรงพยาบาลห้วยราช เนื่องจากตาข้างขวาของนางเสา ยังพอเป็นแสงเหมือนม่านน้ำ ส่วนตาข้างขวาบอดสนิท หากพบว่ายังพอมีหวังที่จะรักษาหายจะส่งไปรักษาต่อทันที เพราะที่ผ่านมานางเสา ไม่เคยไปหาหมอตั้งแต่ถูกลูกมะพร้าวร่วงใส่หัว เมื่อปี 64

ทั้งนี้จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของนางเสา พบว่ามีเงินเข้าบัญชีแล้วประมาณ 1 ล้านบาท นางเสา ถึงกับตกใจว่าในชีวิตไม่เคยมีเงินแสนมาก่อน จึงบอกให้เจ้าหน้าที่ไปว่า พอแล้ว เห็นใจคนบริจาค

สำหรับกรณีที่มีคนเสนอว่าจะส่งเสียให้น้องเตย เรียนจนจบปริญญาตรี สอบถามครูอุ้มแล้ว ทราบว่า มีคนติดต่มาจริงผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว แต่เงียบหายไปยังไม่มีการยืนยันอย่างแน่ชัด

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือสองย่าหลาน เบื้องต้น อบจ.จังหวัดบุรีรัมย์ จะตั้งงบปรับปรุงบ้านให้จำนวนเงิน 80,000 บาท งบของ พมจ.อีกประมาณ 100,000 บาท เพื่อนำมาซ่อมแซมบ้านให้พออยู่ได้อย่างปลอดภัย

ข่าวโดย ธีรยุทธ์ ชำนากอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.บุรีรัมย์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ