น.ส.ประไพพร (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูก นายพงษ์ศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี สามี ทำร้ายร่างกาย และพยายามใช้เชือกรัดคอลูกชาย อายุ 4 ขวบ แต่ตนช่วยลูกชายรอดมาได้อย่างหวุดหวิด หลังจากที่ตนปฏิเสธที่จะร่วมหลับนอนกับสามี

น.ส.ประไพพร เล่าว่า ตนได้รู้จักกับ นายพงษ์ศักดิ์ สามีใหม่ ได้ประมาณ 1 ปี และมาอยู่ด้วยกัน แต่ก่อนเขาปกติดี แต่หากเมามาเมื่อไหร่จะโวยวาย และทำร้ายตนและลูกชาย ล่าสุดได้ใช้ฟันกัดตนบริเวณแก้ม และตามร่างกาย ลากตนเข้าห้องน้ำพยายามถอดเสื้อผ้าตนแล้วกดศีรษะใส่ชักโครก แต่ตนฮึดสู้กำกล่องดวงใจสามีจึงรอดมาได้

แต่สามีใหม่ไม่ยอมจบ วิ่งไปหาลูกตนแล้วใช้เชือกพยายามรัดที่คอลูก ตนบอกว่าทำร้ายตนได้เลย แต่อย่าทำลูก จนเข้าไปช่วยลูกชายรอดมาได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นจึงได้ขับรถพาลูกหนีพาไปขอความช่วยเหลือชาวบ้าน

ยืนยันจะไม่กลับไปหาผัวคนนี้อีกแน่นอน ไม่อโหสิกรรมแล้วก็ไม่ไปเผาผี ตัดสินใจเลิกตั้งแต่ก้าวขาออกมาแล้วมาอยู่ที่นี่แล้ว ผัวคนนี้ให้อภัยมาหลายครั้งแล้ว เขาเคยมากราบเท้าและกอดขาสัญญาว่าจะไม่มีเรื่องทุบตีอีก แต่มีอยู่ตลอด

“ต่อให้ร้องไห้น้ำตาเป็นสายมาให้เห็นต่อหน้า โอกาสของฉันที่ให้เธอก็หมดแล้ว ฉันยอมตัดพ่อเพื่อเลือกเธอ ฉันให้โอกาสหลายรอบแล้ว มันสุดที่จะให้แล้ว มันอะไรนักหนาจะชวนไปหลับนอนด้วย เช้า เที่ยง เย็น และดึก วันละ 3 เวลา คนมันไม่มีอารมณ์จะให้นอนด้วยยังบังคับ ขนาดหนูร้องไห้ขอร้องก็ไม่ยอม เหมือนคนซาดิสก์เห็นเราร้องไห้ยิ่งเอามัน ผู้หญิงมันทนไม่ได้เพราะไม่มีอารมณ์ บอกตรง ๆ ไม่เอาแล้ว” น.ส.ประไพพร กล่าว

ขณะที่ชาวบ้านที่โบสถ์คริสต์ ต้องการให้ทั้ง 2 คนได้พูดคุยกันว่าจะเอาอย่างไร จะเลิกเด็ดขาดหรือจะไปต่อ ชาวบ้านจึงไปพา นายพงษ์ศักดิ์ มา เมื่อ นายพงษ์ศักดิ์ มาถึง ก็ร้องห่มร้องไห้ขอร้องเมียว่า ขอโอกาสอีกครั้งเดียว สัญญาจะไม่กินเหล้า ไม่ทำร้ายลูกและเมียอีก ตนยอมรับผิดทุกอย่าง ขอให้โอกาสอีกครั้ง