จากกรณีที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้เข้าตรวจสอบ จยย. สีดำ-แดง ที่ถูกจอดทิ้งไว้กลางสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง หลังมีเจ้าหน้าที่ รปภ. แจ้งว่าพบ จยย. จอดอยู่กลางสะพาน แต่ไม่พบเจ้าของ

ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ใกล้กันมีรองเท้าแบบผู้หญิง สีดำ ถอดวางไว้ขอบสะพาน 1 คู่ ส่วนที่ตะกร้าหน้ารถพบหมวกกันน็อก และเสื้อคลุมอีก 1 ตัว ภายในกระเป๋าเสื้อพบบัตรประชาชนระบุตัวตน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน พบเป็นร้านขายของเด็กเล่นและขนม

และได้พบกับหลานสาว ซึ่งให้การว่า หญิงคนดังกล่าวออกจากร้านเพื่อกลับไปที่บ้านอีกหลัง โดยไม่ได้นอนที่บ้านหลังนี้ ทำให้ตนและญาติไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้ว่ามีภาวะเครียดในเรื่องอะไร โดยญาติและเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดเหตุร้าย ก่อนจะพบตัวหญิงคนดังกล่าว ซึ่งปลอดภัยดี

โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หญิงคนดังกล่าวได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ พบที่คอมีรอยกิ่งไม้เกี่ยว แขนมีรอยยุงกัด และเสื้อผ้ายังมีกลิ่นโคลน หญิงคนดังกล่าวยังได้โชว์ของดี เป็นท้าวเวสสุวรรณจากเมืองโคราช

พร้อมกับเล่าว่า วิตกกังวล ไม่กล้าบอกหลาน ๆ ว่าติดหนี้นอกระบบ 200,000 บาท ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ จึงตัดสินใจขี่ จยย. มาที่สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ตัดสินใจกระโดดสะพานลงมา พอตกถึงน้ำก็มืดสนิท มองไม่เห็นอะไร แต่ไม่นานนักก็ลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ตนเป็นคนว่ายน้ำเป็น แต่ก็ไม่ได้ว่ายมานานกว่า 30 ปีแล้ว

ตอนแรกเห็นท่อนไม้จึงเกาะลอยคอเอาไว้ แล้วก็ปล่อยตัวไปตามกระแสน้ำ คิดว่าเดี๋ยวหมดแรงคงตายแน่ แต่ระหว่างทางเจอโฟมหรือกะละมังก็อาศัยเกาะไปเรื่อย ๆ จนลอยมาไกลกว่า 15 กม. จนมาถึงเขื่อนทดน้ำบางปะกง เป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง พอน้ำเริ่มนิ่งจึงพัดเข้าฝั่ง หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงปรากฏว่ายังใช้งานได้ จึงส่งไลน์ไปหาหลานสาวว่าปลอดภัย ก่อนจะเดินไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้มาส่งที่ตัวเมืองฉะเชิงเทรา