วัดแจงแล้ว หลังมีดราม่า ปล่อยปลาดุก 4,000 กิโลกรัม ลงแม่น้ำเจ้าพระยา ในวิสาขบูชา

วัดแจงแล้ว หลังมีดราม่า ปล่อยปลาดุก 4,000 กิโลกรัม ลงแม่น้ำเจ้าพระยา ในวิสาขบูชา

พระครูศรีปริยัติธำรงค์ ผู้ประสานงานของพิธีปล่อยปลาดุก 4,000 กิโลกรัม ระบุ รับกิจนิมนต์จากโยมเจ้าภาพที่มาทำบุญที่วัดประจำ สวดมนต์ทำพิธี ให้พรเท่านั้น

พระครูศรีปริยัติธำรงค์ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของพิธีปล่อยปลาดุกจำนวน 4,000 กิโลกรัม ลงแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องใน วิสาขบูชา ซึ่งท่านให้ข้อมูลว่า กิจกรรมดังกล่าวเพิ่งได้รับการติดต่อเมื่อสัปดาห์ก่อน จากโยมที่เป็นเจ้าภาพ ซึ่งมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ โดยได้มีการนิมนต์พระจากวัด ให้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่อไปสวดมนต์ทำพิธี ให้พรเท่านั้น ส่วนปลาที่นำมาปล่อยเป็นของเจ้าภาพที่เตรียมมาเอง

ภาพจาก PPTV

ทั้งนี้การปล่อยปลาในความเชื่อของชาวพุทธ พระครูศรีปริยัติธำรงค์ บอกว่า เหมือนได้ทำบุญต่ออายุ ต่อชีวิตสัตว์ ส่วนผู้ที่ทำบุญก็จะทำให้หมดทุกข์หมดโศก

โดยวันที่ 3 มิถุนายน 2566 พุทธศาสนิกชน และพระสงฆ์ วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร ร่วมกันทำพิธี ปล่อยปลา 4,000 กิโลกรัม เป็นพุทธบูชา เนื่องในวันวิสาขบูชา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใต้สะพานพุทธยอดฟ้า แต่กิจกรรมสำหรับสายบุญ กลับเป็นดราม่าในโลกออนไลน์ ถูกทัวร์ชาวเน็ตลงว่า น่าจะได้บาปมากกว่าได้บุญ เพราะปลาที่เจ้าภาพนำมาปล่อยนั้น เป็นปลาดุก ซึ่งเป็นปลาที่กรมประมง เคยให้ข้อมูลไว้ว่า ไม่ควรปล่อยลงแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะถือเป็นเอเลี่ยน สปีชีส์ ซึ่งหลังจากมีการปล่อยปลาดุกลงแม่น้ำไปแล้วยังปรากฎภาพ คนเก็บปลาที่ปล่อยใส่ถุงกลับบ้านด้วย

ภาพจาก PPTV

ข้อมูลจากกรมประมง เคยระบุสายพันธุ์สัตว์น้ำที่ไม่ควรปล่อยลงแม่น้ำ เช่น ปลาดุกอัฟริกัน ปลาดุกลูกผสม (บิ๊กอุย), กุ้งเครย์ฟิช, เต่าญี่ปุ่น หรือ เต่าแก้มแดง, ปลาหางนกยูง, ปลากดเกราะดำ ปลากดเกราะลาย, ตะพาบไต้หวัน, ปลาทับทิม, ปลานิล, ปลาหมอสีคางดำ เพราะถือเป็นสัตว์ต่างถิ่น หรือ เอเลี่ยน สปีชีส์ ซึ่งจะเข้าไปคุกคามสัตว์น้ำพื้นเมืองของไทย ทำให้มีจำนวนลดลง ถึงขั้นสูญหาย รวมทั้งยังกระทบกับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำ หากสัตว์น้ำต่างถิ่นเหล่านี้หลุดเข้าไปในบ่อ

นอกจากนั้น ทีมข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณใต้สะพานพุทธฯ ซึ่งเป็นจุดที่ปลาดุกถูกนำมาปล่อย พบว่า มีซากปลาดุกตายหงายท้อง ลอยมาติดที่โขดหินริมแม่น้ำ ซึ่งชาวบ้านที่อยูจุดนี้ บอกว่า ก่อนหน้าที่ที่ทีมข่าวจะไปถึง เพิ่งจะขนปลาดุกที่ตายแล้วใส่ถุงจำนวน 3 ถุงออกไป โดยปลาดุกที่ตายเชื่อว่า น่าจะน็อกน้ำ เพราะปลาดุกที่นำมาปล่อยเป็นปลาดุกเลี้ยง นอกจากนี้บางส่วนก็ดำผุดดำว่าย อยู่ใกล้ๆ ริมตลิ่ง เพื่อขึ้นมาหาอากาศหายใจ

ทีมข่าวยังพูดคุยกับคนไร้บ้าน ที่อาศัยอยู่ที่ท่าน้ำ พวกเขาบอกว่า เมื่อเช้านี้เจ้าภาพบรรทุกปลาดุกสำหรับปล่อยถึง 3 คันรถ ซึ่งปลาดุกบางส่วนตายตั้งแต่ก่อนจะปล่อยแล้ว เจ้าภาพจึงบอกให้ชาวบ้านใกล้ๆ สามารถมาเก็บปลาดุกที่ตายแล้วไปกินได้ อย่างพวกเขาก็นำปลาดุกมาตากแดดทำเป็นปลาแดดเดียวไว้กินเอง ส่วนใครที่มองว่า ปล่อยปลาแล้วปลาตายแทนที่จะได้บุญกลับเป็นบาป แต่พวกเขาไม่ได้มองแบบนั้น แต่มองว่า การนำมาแบ่งปันเป็นอาหารให้คนยากไร้ก็ถือว่า ได้บุญเหมือนกัน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ