จากกรณีผู้ใช้เฟสบุคชื่อ Nitchanan Wangkahat น้ำ นิชนันท์ ได้โพสข้อความ ว่า ต่อเนื่องจากโพสต์ที่แล้ว บ้านเรือน ชุมชนหมู่ 7 เทศบาลเกล็ดแก้ว ใช้งบประมาณเทศบาลทำถนนเข้ามาในชุมชนนี้ ระยะทางความยาว 530 เมตร ผิวถนนคอนกรีตกว้าง 5 เมตร รวมพื้นที่คอนกรีต 2,650 ตารางเมตร ใช้งบประมาณก่อสร้างไป 6,279,000 บาท ตกราคาค่าก่อสร้างตารางเมตรละ 2,369 บาท ตัวน้ำเองอยู่ในวงการงานก่อสร้างมาก่อน

ก็พอจะรู้ราคาต้นทุนงานก่อสร้างราคาจ้างรับเหมาทำถนนราคานี้ แพงไปหรือไม่? ราคานี้ควรได้หม้อแปลงไฟฟ้าให้ชุมชนนี้ด้วยหรือไม่ ? จะขอเข้าไปขอดูรายละเอียดสัญญาจ้างรับเหมาก่อสร้างงานถนนเส้นนี้กับทางเทศบาลเกล็ดแก้วค่ะ อยากให้ภาครัฐทุกที่ มีการจัดซื้อจัดจ้างจ้างในราคาที่เหมาะสมและได้งานคุณภาพ และไม่ควรมีเปอร์เซ็นต์เงินทอนแล้ว เพื่อจะได้มีเงินงบเหลือนำไปใช้พัฒนางานสาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า และอื่นๆให้กับประชาชน หลังโพสต์ข้อความลงไปทำให้มีผู้คนในโลกโซเชียล เข้ามาคอมเม้น ถึงเรื่องดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเข้าไปสอบถาม นาย ยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว ทราบว่า ตอนนี้หลังจากมีการโพสต์ เกิดขึ้น ความเสียหายตกมาอยู่ที่ นายก ทต.เกล็ดแก้ว จากข้อความของ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 10 ของพรรคก้าวไกล การโพสต์ของเขาไม่ได้เอาข้อมูลตามความเป็นจริงไปโพสต์

วันนี้ราคาที่ทำก็อยู่ที่ป้ายแล้ว เราทำทั้งถนนทั้งวางท่อ แต่ข้อมูลเขาไม่ได้ระบุลงไปในรายละเอียดมันทำให้เกิดความเสียหายโดยจากราคาที่ตั้งไว้ 7,208,000 บาท ราคากลางก่อสร้าง 7,260,959.14 บาท และราคาที่ทำขึ้นมาเป็นการ e-bidding คือ ระบบประมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ มีบริษัทมาประมูลได้ในราคา 6,279,000 บาทเป็น ราคาที่ได้ประหยัดกว่าราคากลางที่ตั้งใว้เป็นล้านบาท ถ้ามากล่าวหาผมได้เงินทอนจากโครงการจริง เป็นไปไม่ได้ ที่จะมีเงินทอนมาเข้ากระเป๋าผมเป็นล้านบาท เพราะเป็นการประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์

จึงอยากฝากถึงพรรคก้าวไกลที่จะเป็นรัฐบาล เห็นว่าที่นายก บอกจะกระจายอำนาจในวันนี้ยังไม่ได้เป็นรัฐบาลทางลูกพรรคของท่านจี้ตรงนูน ตรงนี้แล้ว ถ้าเอาข้อมูลที่เป็นตามความเป็นจริง ผมในนามผู้บริหารท้องถิ่นผมจะไม่เสียใจเลย และฝากถึงกรรมการบริหารพรรรค การตรวจสอบเรื่องงบประมาณ ของหน่วยงานราชการ มีทั้ง ปปช. สตง. ตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ท่านตรวจสอบทางสื่อโซเชียล โดยไม่ลงมาหาข้อมูลในพื้นที่เลย แบบนี้ หน่วยงานเสียหาย องค์กรเสียหาย ทำให้ชาวบ้านได้รับข้อมูลข่าวสารที่ คลาดเคลื่อน ไม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริง ทำให้คนที่ทำงานเพื่อประชาชน เสียความรู้สึกและหมดกำลังใจในการทำงาน และอยากฝากถึง ว่าที่นายกท่านใหม่ และกรรมการบริหารพรรค ช่วยพิจารณาในเคสนี้ให้หน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก โดยผมอยากให้ทุกหน่วยงานลงมาสอบถามชาวบ้าน ลำบากมา 7 ปี มาดูว่าความเป็นอยู่เขาตอนนี้ดีขึ้นกว่าเดิมไหม

โดยจากการสอบถามชาวบ้านในในพื้นที่ ทราบว่า ชีวิตดีขึ้นมากสะดวกมาก ไม่เป็นถนนขรุขระ เหมือนเดิม บางคนกล่าวว่า เหมือนก่อนลำบากมาก เคยเสนอไปกับอดีตนายกคนเก่าแต่ยังไม่ได้รับการก่อสร้าง จนมาวันนี้ได้มีการก่อสร้างแล้วในสมัยนายกคนปัจจุบัน ถนนดีขึ้น เมื่อก่อนฝนตกน้ำไหลมาตามถนน เข้าบ้านได้รับความเสียหาย จนตอนนี้ทำถนนและวางท่อระบายน้ำ ทำให้ปัญหาทุกอย่างหมดไป