สมภพ เปิดใจเคลียร์ข่าวลือเสียชีวิต พร้อมเผยเส้นทางรักกับภรรยาที่ไม่เคยเปิดตัวแม้แต่ครั้งเดียว

สมภพ เปิดใจเคลียร์ข่าวลือเสียชีวิต พร้อมเผยเส้นทางรักกับภรรยาที่ไม่เคยเปิดตัวแม้แต่ครั้งเดียว

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีสำหรับนักแสดงอาวุโส มากฝีมือ ผ่านละครมาหลายเรื่องอย่าง อาหมู สมภพ ล่าสุดได้ออกมา เปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ เคลียร์ข่าวลือเสียชีวิต พร้อมเผยเส้นทางความรักกับภรรยากว่า 55 ปีที่ไม่เคยเปิดตัวออกสื่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว

มีข่าวว่าอาหมูเสียชีวิตแล้ว?

อาหมู : งงมากๆ เลย ตอนแรกก็ไม่รู้เรื่องหรอก เพื่อนได้ข่าวมายังไงไม่รู้ โทรมาบอกว่ามีข่าวลือว่าเราตายแล้ว ก็บอกไปว่าน่าจะจำคนผิดมากกว่า หนังด้วย ละครด้วย

เขาบอกเกือบเป็นตำรวจ และเกือบเป็นนักฟุตบอลทีมชาติด้วย?

อาหมู : ช่วงนั้นพอเรียนจบ ผมเล่นกีฬาฟุตบอลมาตลอด บังเอิญไปเจอหม่อมราชวงศ์เจตจันทร์ ประวิตร ท่านเป็นผู้การทางหลวงอยู่ ท่านให้คนมาติดต่อมาเล่น สุดท้ายที่มาเล่นกับท่านได้ ถ้วย ก.ราชประชานุเคราะห์ ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นพรีเมียร์ลีก แล้วช่วงหลังไปประสบอุบัติเหตุไปกับเพื่อน โดนรถเมล์ชน ขาหัก กระเด็นข้ามไปฝั่งโน่น ถ้าเป็นสมัยนี้ตายไปแล้วรถเยอะ สมัยนั้นรถน้อยอยู่ คนมาช่วยไปโรงพยาบาลตำรวจ

แสดงว่าอนาคตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมันหยุดตอนที่รถเมล์ชน?

อาหมู : อีกครั้งพอหายแล้วมาบาดเจ็บในสนาม พอรักษาหาย เล่นแล้วไม่เหมือนเดิม บังเอิญไปเจอท่านมุ้ย ตอนนั้นพี่ชายเป็นช่างกล้องอยู่กับท่าน แล้วท่านไปงานบวช บอกว่าไปเล่นหนังกันไหม ผมก็เฉยๆ เพราะตั้งเป้าอยากเป็นนักฟุตบอลแล้วจะเป็นตำรวจ หลังจากนั้น 3 เดือนพี่ชายสึก บอกว่าไปพบท่าน

หลังจากนั้นก็เริ่มงานนี่มาตลอด อาหมูมีภรรยาใช่ไหม?

อาหมู : มีครับ แล้วมีก่อนที่จะเข้าวงการ 1 ปี เจอผู้หญิงคนนี้เจอด้วยความบังเอิญ ไม่ได้เป็นคนรูปร่างสวยเท่าไหร่ ผมเห็นเขาเป็นคนทำงาน เขาดูแลครอบครัว ดูแลพ่อแม่ พี่น้อง แสดงว่าคนนี้เป็นคนกตัญญู

ตอนเข้าไปคุย เขาคุยด้วยเลยไหม?

อาหมู : คุยด้วย เขาทำงานบริษัทเกี่ยวกับประชาสัมพันธ์ เขาคงคุยเก่งอยู่แล้ว เราก็เขินๆ หน่อย แต่พอเจอกันบ่อยๆ ก็เลยคุยกันรู้เรื่อง

สมัยก่อนเขาไม่เปิดตัวแฟน?

อาหมู : อาจจะมีส่วนนะ แล้วอาจจะเป็นนิสัยของเขาด้วย ผมเคยพาไปกองถ่ายนะ เขาไปนั่งแล้วไม่มีความสุข เพราะต้องรอนาน แล้วยังไม่รู้เวลาเลยว่าจะได้กลับเมื่อไหร่ เขากลับมาคิดแล้วคุยกันที่บ้าน เขาบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้ ต่างคนต่างทำงาน แต่เขาสนับสนุนนะ คอยเป็นกำลังใจให้ คอยช่วยเหลือตลอดเวลา ผมอาจจะโชคดีตรงที่เขาเข้าใจ แล้วเขาบอกว่าเดี๋ยวมันจะวุ่นวายแล้วเราทำงานไม่สะดวก

ถ้าภรรยาไม่อยากเปิดตัว ลึกๆ ตอนนั้นอาหมูอยากเปิดไหม?

อาหมู : ถ้าเขามาถามโดยเจอกันตรงๆ ผมก็เปิด ทีนี้ผมเป็นคนไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวเรื่องสื่อ เรื่องอะไร เลยไม่ค่อยได้เจอกัน

สมัยก่อนศิลปินดารา มันเปิดตัวความรักไม่ได้อาเชื่อไหม?

อาหมู : ที่รู้มา 1 เจ้าของหนังที่เขาสร้างมา เขาสร้างมาเขาก็ต้องการให้ พระเอก นางเอกของเขาสด พอเปิดตัวมีภรรยาแล้ว ค่านิยมมันอาจจะน้อยลงไป กลายเป็นทุกคนต้องปิดบัง

อาทำไมแค่รูปถึงดูไม่ได้?

อาหมู : เขาบอกว่าอย่าให้เขาเข้ามายุ่งเลย เขาพูดกับผมเอง ไม่ใช่ผมกันนะ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย เขาไม่อยากให้บางครั้งมีนักข่าวหรือมีอะไรไปขอสัมภาษณ์ที่บ้าน

อยากจะบอกอะไรกับภรรยา?

อาหมู : ก็รับทราบไว้ว่าทำตามที่ขอร้องไว้แล้วนะ มันเกินที่จะบอกรักแล้ว สมัยนี้มันอยู่ด้วยความเห็นอกเห็นใจ

เมื่อปี 64 เกิดอะไรขึ้นกับภรรยา?

อาหมู : ปลายปี 64 มีอยู่วันหนึ่งผมต้องไปถ่ายละครเรื่องเมียหลวง ตอนตี 4 ได้ยินเสียงเปิดประตูออกไปเข้าห้องน้ำพอ 7 โมงเช้าเขาต้องตื่นทุกวัน ก็ไปปลุก เขาบอกลุกไม่ไหว ข้างซ้ายไม่มีแรง อยากเข้าห้องน้ำ พอดีที่บ้านมีเก้าอี้ที่มีล้ออยู่ก็เอาไปเทียบเตียงแล้วค่อยพาไปเข้าห้องน้ำ แต่ทุลักทุเลมาก เพราะอยู่กันแค่ 2 คน ลูกจะมาเฉพาะวันอาทิตย์ เลยตัดสินใจโทรบอกคนที่เคยมาดูแลรับส่งอาหาร แล้วพอถึงเวลาผมก็ไปทำงาน เขาจัดการเสร็จเอารถมารุ่งขึ้นพาไปโรงพยาบาล

หมอว่ายังไง?

อาหมู : ทีแรกหมอไม่บอก บอกว่าเส้นโลหิตปริ ให้อยู่โรงพยาบาล 5 วัน หมอบอกว่าออกไปแล้วใครดูแล พอดีน้องสาวเขาเคยเป็นพยาบาล ก็ไปอยู่บ้านเขาประมาณเดือนครึ่งแล้วไปหาหมอใหม่ หมอสารภาพให้ฟังว่า จริงๆ แล้วเส้นโลหิตในสมองมันแตก ข้างขวามันลงไปข้างซ้าย ถ้าข้างซ้ายมันลงไปข้างขวา มันควบคุมอยู่ตรงนี้ คือมันเพิ่งแตกวันที่เป็นนั้นแหละ แต่ว่ามันปริมาตั้งแต่เมื่อไหร่เราไม่รู้ แล้วถามว่าเขาล้ม เขาอะไรไหม เขาก็นึกไม่ออก จริงๆ แล้วถ้าเป็นอย่างนี้มันจะเป็นอาการของคนที่จะเป็นอัมพฤกษ์ แต่เขาไม่เป็น ผมกลับมาตอนที่เขาไปอยู่บ้านน้องสาว มานั่งคิดเผื่อเขาต้องนอนติดเตียง แล้วเราจะทำยังไง เราต้องไปทำงาน เดี๋ยวนี้จ้างคนที่มาดูแล เรื่องแพงเราพอไหวอยู่ แต่ที่เขาจะดูแลเราไม่ไว้ใจ

ตอนนี้อาการเป็นยังไง มีผลข้างเคียงอะไรไหม?

อาหมู : ปกติ เป็น สว. คนสูงวัย ปากยังไวเหมือนเดิม ก็พูดกับเขาอยู่ทุกวัน ดีใจด้วย ถ้าเกิดผมได้เงินหรือถูกลอตเตอรี่หรือได้เงินที่เป็นโชค ผมก็ยังไม่ดีใจเท่าได้ชีวิตเขามา ตอนนี้เย็นๆ กับข้าวมาส่ง เขาขอไปอุ่นกับข้าว ไปทำเองอะไรเองก็ช่วยกันดูแล ตอนนี้มันข้ามความรักมาแล้ว มันอยู่กันด้วยความเข้าใจ ความเห็นอก เห็นใจ

อาหมูมีลูก 2 คน คนโตคือผู้หญิง คนเล็กคือผู้ชาย คนเล็กประสบอุบัติเหตุตอนนั้นกี่ปีมาแล้ว?

อาหมู : เท่ากับตอนนี้ก็ 5 ปีแล้ว เขาประสบอุบัติเหตุเดือนธันวาคม 60 เขาเรียนจบแล้ว เขาสอบสถาปนิคได้แล้ว ไปทำงาน ช่วงหลังเขาย้ายที่ทำงานไปอยู่ตึกดุสิตธานี ทำมา 3 ปี ก็ให้รถเขาตั้งแต่เขาเรียนหนังสือ ออกจากบ้านเช้าแต่ก็ไปสาย กว่าจะหาที่จอดกว่าจะอะไร เขาก็ขอมอเตอร์ไซค์มาเป็นปี ผมไม่ยอมให้ เพราะเราเห็นมอเตอร์ไซค์มีแต่อุบัติเหตุ แม่ก็บอกว่าลูกต้องไปทำงาน ก็ต้องระวังแล้วกัน แม่เขาก็ไปออกให้ “ใช้มา 3 ปี วันนั้นเขาจะไปทำประกันสังคมใหม่เขาไม่ต้องไปทำงาน ออกไปหาเพื่อน บ้านอยู่ใกล้ๆ พอ 5 โมงเย็นมีคนขับมอเตอร์ไซค์มาบอก ลูกชายชื่อช้าง

บอกว่าประสบอุบัติเหตุ เราก็รีบแต่งตัวออกไป แต่ยังไม่ทันออกรถเลย มูลนิธิโทรมาไม่ต้องไปที่เกิดเหตุแล้วนะ ไปที่ สน.แล้วกัน พอบอกไป สน.ผมใจหายวูบเลย เพราะต้องเสียชีวิตแน่ เพราะถ้ายังไม่เสียชีวิตเขาต้องพาไปโรงพยาบาล ไปถึงเสียชีวิตแล้ว คนจากมูลนิธิบอกลูกพ่อไม่ผิด มอเตอร์ไซค์มาทางตรง รถปิ๊กอัพเลี้ยวเข้าซอย ผมไม่อยากบอกใครเลยถ้าเกิดบอกว่าขี่มอเตอร์ไซค์ประสบอุบัติเหตุ ทุกคนก็บอกว่ามันซิ่ง ตั้งแต่วันนั้นถึง 3 เดือน ผมพูดไม่ได้ พูดไปแล้วมันตันที่คอ ก็ต้องรีบทำ เพราะเดี๋ยวมันจะมาชนวันที่ 5 ธันวาคม บอกที่วัดสวดวันละ 2 รอบ วันที่ 4 ไปลอยอังคารวันที่ 3 เผา

คุณภรรยาว่ายังไง?

อาหมู : เขาพูดไม่ได้ หนักกว่าผมอีก แล้วที่เขาเสียใจมากๆ คือ เขาตกลงกันไว้แล้ว ลูกเขาได้ย้ายไปทำงานที่สิงคโปร์แล้วเขาคุยว่าเขาจะเอาแม่ไปด้วย เขามาถามว่าพ่ออยู่ได้ไหม ไม่มีปัญหาหรอก วันที่เผาเขา ผมพูดคนสุดท้าย ผมพูดไม่จบ มันพูดไม่ได้

ขอบคุณ บทสัมภาษณ์จาก รายการ คุยแซ่บShow

เรียบเรียง สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ