แห่เป็นห่วง ชิฟู เมวอ้วน หลังตกจากชั้น 6 ใส่กระจกรถแตก ล่าสุดต้องไปหาหมออีก

แห่เป็นห่วง ชิฟู เมวอ้วน หลังตกจากชั้น 6 ใส่กระจกรถแตก ล่าสุดต้องไปหาหมออีก

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่โด่งดังมากเลยทีเดียว หลังเกิดเหตุการณ์ แมวที่มีน้ำหนักกว่า 8.5 กิโลกรัม ตกจากคอนโดชั้น 6 ลงสู่หลังรถสีแดงจนกระจกแตก ภายหลังทราบชื่อเจ้าเหมียวว่า ชิฟู (ไม่ใช่ ซิฟู) โดยเจ้าของชิฟูเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมย้ายแมวออกจากคอนโดไปอยู่ต่างจังหวัดเนื่องจากมีกฎห้ามเลี้ยง รวมถึงรับผิดชอบค่าเสียหายให้เจ้าของรถยนต์

กระทั่งกระแสในโลกออนไลน์เชียร์ให้เจ้าของแมวเปิดเพจอัพเดตชีวิตเหมียวชิฟู ด้วยอยากติดตามความน่ารัก รวมทั้งสุขภาพหลังตกจากที่สูง แม้ว่าผลตรวจจะพบว่าเป็นห้อเลือดและเล็บหลุด 2 นิ้วเท่านั้น อย่างไรก็ดี เจ้าของชิฟู มีบัญชี TilTok อยู่แล้ว ล่าสุดได้อัพเดตชีวิตเจ้าเหมียว พร้อมแสดงความเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น

โดยเจ้าของชิฟูได้อัพเดทผ่านโซเชียลระบุว่า สวัสดีครับ ผมชื่อชิฟู เป็นแมวอุกกาบาตตัวนั้นที่พี่ๆ ตามหา ก่อนอื่นผมขอแจ้งพี่ๆ ว่าผมสบายดีครับ แม่จะพาผมไปตรวจละเอียดกับคุณหมออีกทีภายในอาทิตย์นี้ ส่วนเรื่องที่อยู่ ตอนนี้ผมอยู่บ้านแม่นมครับ มีพ่ออีกคนและพี่ชายช่วยดูแลผม ที่นี่เป็นบ้านที่ผมเคยมาอยู่สมัยตัวกะเปี๊ยก

เวลาแม่กลับไปหายายก็จะพาผมมาฝากที่นี่ครับ ผมไม่ต้องปรับตัวกับบ้าน หรือแม่นมกับพ่อเลยครับ แค่ต้องอัพเดตที่ซ่อนตัวนิดหน่อย พี่ๆ ครับ แม่ผมเสียใจมากที่ปล่อยให้ผมตกลงไป ผมก็เสียใจที่ผมซน แม่ผมฝากมาขอโทษทุกๆ คนที่แม่ผมผิดพลาด พลั้งเผลอ ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบจนตามมาด้วยความเสียหาย ทำให้พี่ๆ เป็นห่วงและรู้สึกไม่โอเคกับเรื่องนี้

มีพี่ๆ บางคนเป็นห่วงสุขภาพผมเพราะผมอ้วน ผมขอโทษครับที่ผมกินแล้วก็เอาแต่นอน จนพี่ๆ เป็นห่วงเรื่องน้ำหนัก แต่แม่ผมไม่เคยอยากให้ผมอ้วนเลยครับ เพราะผมชอบนั่งตักแม่ นอนซบอกแม่ นอนบนหน้าผากแม่ แม่ชอบบ่นว่าผมตัวหนักบ่อยๆ ครับ จริงๆ แม่ผมมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะบอก แต่แม่ผมยังปรับตัวไม่ถูกที่อยู่ดีๆ ผมก็ไปโผล่ทุกช่องข่าว และผมกับแม่ก็ต้องห่างกันในสถานการณ์แบบนี้ แม่ผมขอเวลาหน่อยนะครับ

ปล.ขอโทษแมวอื่นๆ ที่เราชื่อเหมือนกัน และอาจทำให้สับสนว่าตัวเองตกจากคอนโดตอนไหน ก็ต้องขอโทษด้วยเด้อ ผมต้องขอตัวไปสำรวจชั้นสองก่อนนะฮะ น่าจะมีที่ให้ผมแอบอีกเยอะเลย ลงชื่อ ชิฟู-อุกกาบาต

ขอบคุณ TikTok bkt_chifoo

เรียบเรียง สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ