ส่งกำลังใจ เอส กันตพงศ์  เข้าโรงพยาบาลอาการยังไม่ดีขึ้น หมอดังเผยสาเหตุ

ส่งกำลังใจ เอส กันตพงศ์ เข้าโรงพยาบาลอาการยังไม่ดีขึ้น หมอดังเผยสาเหตุ

หลายคนยังส่งกำลังใจให้อย่างมาก สำหรับ เอส กันตพงศ์ และครอบครัว ที่ก่อนหน้านี้ คิตตี้ คริสติน่า ภรรยาสาวของหนุ่มเอส ได้ออกมาเผยอาการสามีว่า อาการยังวิกฤติอยู่ และต้องรอดูวันต่อวันเบื้องต้นทางแพทย์ที่รักษาได้ออกมายืนยันแล้วว่า เขามีอาการหัวใจอักเสบ แต่ยังไม่สามารถระบุอะไรได้มากกว่านี้

ซึ่งทางด้านภรรยา ก็ออกมาคอยอัพเดตภาพของสามีที่ลูกสาว น้องวาเลนติน่า ไปเฝ้าไข้อยู่ข้างเตียงพ่อเอสทุกวัน พร้อมกับสวดภาวนาขอให้อาการดีขึ้น ซึ่งก็เป็นภาพการจับมือระหว่างเอส กันตพงศ์ และ ลูกสาว

โดยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการยังวิกฤต โดยมีครอบครัวคอยเคียงข้าง และวันที่ 20 พ.ค คริสติน่า ได้ออกมาอัปเดตและเปิดเผยอาการป่วยของสามีเป็นครั้งแรกว่า

ในตอนนี้อาการของเอส ยังอยู่ในวิกฤต เราค่อนข้างหนักใจกับสถานการ์ณที่เกิดขึ้น ส่วนวาเลนตินาก็ร้องไห้ เรียกหาแต่พ่อตลอดเวลา แต่ในตอนนี้ยังไม่มีข่าวดี เพราะว่าอาการป่วยของ เขายังอยู่ในวิกฤต ท่ามกลางเสียงกำลังใจให้กับเอส กันตพงศ์ และครอบครัว

ล่าสุด คุณหมอคนดังหรือ นายแพทย์ ธนีย์ ธนียวัน วิเคราะห์อาการป่วยพระเอกดัง เอส กันตพงศ์ หลังวูบหมดสติกลางอีเวนต์

โดยระบุผ่านช่องยูทูปว่า คนที่ไม่มีอาการอะไรมาก่อน อายุ 36 แล้วจู่ ๆ หัวใจเต้นผิดปกติ ที่วูบหมดสติ หมอคิดว่าต้องเป็นการเต้นผิดปกติของหัวใจน่าจะเป็นหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ ทำให้เลือดไม่สามารถบีบออกไปได้ เลือดค้างหัวใจ ไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะอื่น ๆ ได้โดยเฉพาะสมอง

จึงเกิดอาการหมดสติขึ้น ในการช่วยเหลือชีวิต นอกจากการปั๊มหัวใจะต้องมีการช็อกไฟฟ้า เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นด้วยจังหวะปกติแล้วทำไมจู่ ๆ หัวใจเต้นผิดปกติได้ เกิดได้ด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง

มีทั้งที่เป็นมาแต่กำเนิด แต่ไม่รู้ตัว แล้วมาเกิดอาการตอนอายุช่วงนี้และยังมีสาเหตุอื่นอีก ได้ยินคำว่า หัวใจอักเสบ งที่เจอบ่อยสุดเกิดจากไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอื่น ๆ

ถ้าเกิดจากไวรัส จะมีอาการนำมาก่อน แต่คนอาจไม่รู้ตัว เช่น รู้สึกเพลีย ๆ เจ็บแน่นหน้าอก แต่เป็นไม่มาก บางคนอาจคิดว่าเพราะทำงานเหนื่อยเกินไป บางคนอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นกรดไหลย้อน พวกนี้เป็นอาการนำของไวรัสที่ทำให้เกิดหัวใจอักเสบได้ มันอาจจะบอกไม่ได้ เพราะมันเหมือนแค่เรารู้สึกเหนื่อยธรรมดา แล้วจู่ ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้นมา

หลายคนสงสัยว่าเกิดจากวัคซีนโควิดหรือเปล่า คือวัคซีนโควิดที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ ไม่ได้เกิดหลังฉีดวัคซีนนานขนาดนี้ ซึ่งคุณเอสาจะฉีดไปนานมาก ๆ แล้ว เรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จะเกิดขึ้นได้หลังฉีดวัคซีนไม่เกิน 6 สัปดาห์ และเท่าที่มีรายงานชัดเจน ไม่มีเคสไหนที่อาการหนักถึงขั้นเสียชีวิต

จึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยว เมื่อมาถึงหมอ ระหว่างทางจะต้องมีการปั๊มหัวใจ ซึ่งทำให้มีการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหัวใจได้ และหัวใจจะมีการปล่อยเอนไซม์ออกมาจากหัวใจ แต่มันไม่สามารถบอกได้ว่าเอนไซม์ออกมาเพราะเราปั๊มหัวใจ หรือมันมีอาการอักเสบอยู่ตั้งแต่แรก

ซึ่งส่วนตัวหมอไม่มีข้อมูล จึงไม่สามารถบอกได้ว่าอักเสบจริงหรือไม่ ถ้าจริง อาจจะมีไวรัสเข้าไปติดในหัวใจก่อน อย่างโควิดไวรัสก็ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้มากกว่าตัววัคซีนอีก

ถ้ามันอักเสบก็อาจมีค่าการอักเสบในเลือดสูงขึ้น ก็จะตรวจค่าต่าง ๆ ที่พอบอกได้ว่ามีการอักเสบของหัวใจและทั่วร่างกาย ซึ่งก็ต้องใช้ร่วมกับเอนไซม์ที่ออกมาจากหัวใจในการบอก แต่เอนไซม์ก็อาจจะออกมาจากการปั๊มได้จึงไม่สามารถวิเคราะห์ได้มากไปกว่านี้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลนั่นเอง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ