
ยายเล่าอยู่กับลูกกับหลานลำบากใจทั้งถูกด่าทำร้ายร่างกาย ต้องออกหาเก็บผักบุ้งไปขายพอได้เงินมาเลี้ยงชีวิตไปวันๆ
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านโนนสำราญ หมู่ที่ 13 ต.บ้านดุงใหญ่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ตามคลิปที่พลเมืองดีได้ถ่ายภาพยายกำลังเก็บผักบุ้งไปขาย ยายบอกกับพลเมืองดีว่าอยู่บ้านตัวเอง กับลูกกับหลานอยู่อย่างลำบากมานาน ทั้งโดนด่า โดนไล่หนีให้ออกจากบ้านทั้งที่บ้านเป็นของตนเองบางวันก็ทะเลาะกับลูกสาวลูกและลูกเขย ตัวเองอายุก็มากแล้วต้องออกหาเก็บผักบุ้งไปขายพอมีรายได้มาเลี้ยงชีวิต เป็นที่น่าสงสาร
พลเมืองดีมาเจอยายยุ่น เห็นเก็บผักบุ้งอยู่คนเดียว ตากแดด จึงได้สอบถาม ความเป็นไป ทราบชื่อคือยายยุ่น ตางจงราช อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 13 บ้านโนนสำราญ ต.ดุงใหญ่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ยายบอกว่ายายเก็บผักบุ้งไปขายทุกวัน เพราะอยู่บ้านก็อยู่แบบลำบากใจ โดนดุ โดนด่าแทบทุกวัน บางวันถูกลูกสาว ด่าไล่ออกจากบ้าน เคยถูกลูกเขยดีบ่อยๆ พลเมืองดีมาเห็นยายเกิดความสงสารจึงบอกว่า ซื้อผักบุ้งจากยาย แต่ไม่เอาผักบุ้ง และได้ให้เงินยาย 400 บาท เพื่อนำไปใช้ในชีวิต หากเป็นตามที่ยายพูดน่าสงสารมาก
วันนี้ผู้สื่อไปที่บ้านของยายยุ่น ตอนแรกไม่เจอยายยุ่น พบลูกสาว คนเล็กของยายยุ่น คือนางบรรณ ตางจงราช อายุ 43 ปี จึงได้สอบถา ม ได้รับการบอกกล่าวว่า แม่ออกไปตั้งแต่เช้าไปหาเก็บผักบุ้งเหมือนที่แกเคยไปทุกวันห้ามก็ไม่ฟัง จึงได้ถามนางบรรณว่า ตามคลิปที่บอกว่า ถูกลูกเขยตี และยายยุ่นถูกไล่ให้ออกจากบ้านนั้น เป็นความจริงใช่มั้ย ลูกสาวบอกว่าตัวเองอยู่กับแม่อยู่อย่างลำบากมาก แม่เอาแต่บ่นพูดมากไม่ยอมฟังใคร ทะเลาะกับลูกหลานเป็นประจำ ที่ว่าแกถูกลูกเขยทำร้ายร่างกายก็ไม่ใช่แกไปดึงไม้แล้วมาทับแขนแก ลูกเขยก็สงสารแกห้ามแกไม่ต้องออกไปเก็บผักมาขายแกก็ไม่ฟังเรื่องที่แม่พูดมาไม่เป็นความจริง ลูกสาวที่อยู่ด้วยนั้นจะหนีก็ไปได้แต่สงสารแม่ก็ต้องขอทนไปก่อนเพื่อแม่
ส่วนเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริงยายยุ่นเป็นคนที่พูดมากไม่ต้องการให้ลูกหลานอยู่ด้วย ชาวบ้านเห็นพฤติกรรมของลูกสาวและลูกเขยเขาก็ปกติดี
ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี