เด่นคุณ ยอมรับแล้ว ขอเลิก แกรนด์ แฟนๆแห่เสียดายมาก

เด่นคุณ ยอมรับแล้ว ขอเลิก แกรนด์ แฟนๆแห่เสียดายมาก

ทำเอาแฟนๆต่างก็เสียดายไปตามๆกันสำหรับคู่ของ เด่นคุณ กับ แกรนด์ ที่เพิ่งจะเลิกรากันไปอีกคู่ ล่าสุด พระเอกหนุ่ม เด่นคุณ งามเนตร ได้เปิดใจครั้งแรกหลังมีข่าวลือว่าเลิกกับแฟนสาว แกรนด์ กรณ์ภัสสร ด้วยเศียรเกล้า มาถึง 3 เดือนแล้ว โดยเด่นคุณบอกว่า ตามข่าวเลย คือไม่คุ้นกับการสัมภาษณ์เรื่องแบบนี้

ขอโทษด้วยถ้าพูดอะไรผิดๆ ขาดๆ ก็จริงครับตามข่าว เราตัดสินใจลดความสัมพันธ์มา 3 เดือนแล้ว ประมาณช่วงหลังวันวาเลนไทน์ ก็คุยกันครับ คือ จริงๆ ผมเป็นคนตั้งคำถามก่อน ว่าในเมื่อสิ่งต่างๆ เราปรับจูนเข้าหากันไม่ได้ เราก็ลองห่างกันอีกดูไหม เพราะเราเคยห่างกันแล้วครั้งหนึ่ง ประมาณเดือนหนึ่ง สุดท้ายมันก็ขาดกันไม่ได้ตอนนั้น ก็ต้องกลับมาเจอกัน กลับมาคบกันเหมือนเดิม ทุกอย่างก็ดีขึ้น แต่วันหนึ่งก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

เรารู้ว่าสึกความสัมพันธ์มันไปต่อไม่ไหว เลยตัดสินใจบอกเลิกก่อนใช่ไหม?

ก็อะไรประมาณนั้นครับ แต่ถ้าถามว่าอยากทำแบบนั้นไหม คงไม่ได้อยากทำหรอก (ยิ้ม)

(เป็นเพราะว่าอยากแต่งงานตามข่าวไหม?)

ไม่ใช่ครับ ตามข่าวบอกว่าอยากแต่งงานแล้ว ก็เลยแยกทางกัน แต่จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ว่า ผมเคยเห็นเขาพูดในโซเชียลเกี่ยวกับเรื่องอะไรแบบนี้ ผมก็เลยถามเขาหลายๆ ครั้ง ซึ่งผมมองว่าเขาก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจในการตอบคำถามนี้มากๆ ว่าเขาไม่อยากมีครอบครัวหรือมีลูก แต่ผมไม่ได้อยากมีครอบครัวเร็วๆ นี้ มันเป็นเรื่องของอนาคตมาก ก็เพียงแต่ผมไม่เข้าใจ ในเรื่องของการไม่อยากมีครอบครัว

(มุมมองเรื่องการมีครอบครัวไม่เหมือนกัน?)

ใช่ๆ ผมเข้าใจแค่ว่า คนเราจะมีครอบครัว ผมยังไม่เข้าใจเรื่องการไม่มีครอบครัว การไม่มีครอบครัวจริงๆ มันเป็นยังไงผมยังไม่เคยเห็น หรืออาจจะเคยเห็นแต่ไม่เก็ต

เคยคุยกันเรื่องนี้ไหม เคยคุยครับ ก่อนหน้านี้จะเป็นการพยายามที่จะเข้าใจกันมากกว่า ส่วนใหญ่เวลามีปัญหา เราก็จะปล่อยผ่านมาโดยตลอด เพราะเรารู้สึกว่าเรามีความสุขที่อยู่ด้วยกัน จนลืมมองเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนที่จะทำให้เข้ากันไม่ได้ เราจะมองข้ามไปตลอด

ปัญหาคือเรื่องมุมมองของการแต่งงานอย่างเดียว หรือมีอย่างอื่นอีก?

คือปัญหาเรื่องการแต่งงาน มันเหมือนเรื่องที่ผมสร้างขึ้นมา เพื่อที่จะไม่ได้กลับไปคบกัน เพราะถ้าไม่มีเรื่องนั้น ผมกลับไปง้อตั้งแต่วันนั้นแล้ว

ทำไมไม่คุยกันตรงๆ ว่าเราก็ไม่ได้อยากจะมีครอบครัวเร็วๆ นี้นะ?

คุยๆ พูดอยู่ว่ามันไม่ใช่เร็วๆ นี้ แต่เขามั่นใจมากว่าเขาจะใช้ชีวิตแบบนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยนะ เพราะมันเป็นเรื่องอนาคต เรื่องไกลมาก ดีไม่ดีในอนาคตผมอาจจะไม่อยากมีครอบครัวก็ได้ใครจะไปรู้

การตัดสินใจในตอนนั้น เราคิดทบทวนมาดีแล้วใช่ไหมถึงพูดไป?

ก็เป็นเรื่องความเป็นตัวเองของเขาและของเรา ถ้าพูดแรงๆ ก็คือความเป็นตัวเองของผมไปทำร้ายเขาด้วย

เรื่องใหญ่จริงๆ คือเข้ากันไม่ได้ใช่ไหม ใช่ครับ ผมจะห่ามๆ ตรงๆ บางทีพูดไม่คิด เป็นคนอย่างนี้แต่ไหนแต่ไร

(ยิ่งคบนาน ความเป็นตัวเองยิ่งมีมากขึ้น?) จริงๆ ก็เป็นตัวเองมาตั้งแต่แรกๆ แล้วนะ แต่เราพยายามไม่เอาความเป็นตัวเองมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่า แต่บางครั้งมันก็จะหลุดออกมาบ้าง

ข่าวบอกว่าเป็นเพราะแกรนด์เป็นลูกคนหนู ต่างกับเรา? “ไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยว อันนี้ไม่เกี่ยวเลยครับ พ่อแม่แกรนด์น่ารักมาก พี่เกรซ (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) ก็น่ารักมากๆ ซึ่งไม่เกี่ยวเลยว่าเขาถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน แล้วผมถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน มันเป็นเรื่องของผมกับของเขา มันเป็นเรื่องของความชอบ ความไม่ชอบของเขาและของผมมากกว่าครับ

ตอนที่บอกเลิก เขาเข้าใจเหตุผลเราไหม?

เข้าใจเลย เข้าใจทันทีเลย เขาไม่ยื้อครับ เพราะว่าเรื่องที่พูดกันมันมีเหตุผล เรื่องที่เขาพูดผมก็รู้ คือแยกกันเนี่ย ผมก็ไม่ใช่คนที่ถูก ผมก็เป็นคนผิดคนหนึ่ง

(เราผิดเรื่องอะไร?) มันเริ่มจากความเป็นตัวเองของแต่ละคน และความเกรงใจกันมากเกินไป หมายถึงว่าตอนแรกๆ เรามีอะไรก็ไม่พูด มีพื้นที่ให้กัน หวังดีให้กันตลอด จนไม่ได้มองว่าเรารู้สึกยังไง แต่วันหนึ่งไอ้ที่รู้สึกยังไงมันได้พูดออกไป ผมก็พูดงงๆ นะตอนนี้”

ข่าวเลิกกันออกมาแบบนี้เรางงไหม?

ไม่น่างงเท่าไหร่ เพราะวงการบันเทิง เวลาเราไปทำงาน เพื่อนเจอผมที่กอง เขาจะเห็นผมซึมๆ แล้วน้ำหนักก็ลดลงเยอะ ค่อนข้างซูบและแปลกๆ ไป เขาก็จะถามอยู่อย่างนั้น เราก็ไม่ตอบเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ตอบไป ว่าเลิกกับแกรนด์มาพักหนึ่งแล้ว ผู้จัด ผู้กำกับ เขาก็ถาม ว่าทำไมอาการแปลกๆ ทุกคนจับสังเกตได้ ผมก็ไม่รู้มันคืออาการอะไร มันงงๆ แต่ไม่มีร้องไห้ มันงงๆ ครับ มันสับสน แต่ตอนนี้ผ่านมา 3 เดือนมันดีขึ้นเยอะแล้วครับ น้ำหนักลดจาก 74 เหลือ 65

ครั้งที่แล้วยังมีคำว่าขาดเขาไม่ได้ครั้งนี้ยังมีคำนั้นเข้ามาในความรู้สึกอยู่ไหม ? 

ตอนนี้ยังไม่มีความรู้สึกนั้นเพราะผมยังโทรหาเขาอยู่ เมื่อเช้าก็โทรหามีข่าวก็โทรหา ถ่ายละครกลับมาเจอเรื่องดีไม่ดีก็โทรหาเขา เล่า ให้เขาฟังเหมือนเดิมและเขาก็ยังคอยสอนคอยเตือนผมเหมือนเมื่อก่อน”

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ