สาว19ช็อก กำลังอาบน้ำ จู่ๆเด็กไหลออกมาทำอะไรไม่ถูกเลยเอาทิ้งทางหนีไฟ แฟนเจ้าตัวเผยได้ยินบ่นว่าอ้วนไม่คิดว่าท้อง

สาว19ช็อก กำลังอาบน้ำ จู่ๆเด็กไหลออกมาทำอะไรไม่ถูกเลยเอาทิ้งทางหนีไฟ แฟนเจ้าตัวเผยได้ยินบ่นว่าอ้วนไม่คิดว่าท้อง

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 13 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัย ได้รับแจ้งพบเด็กทารกถูกทิ้ง ที่บริเวณชั้น 4 ตึก 34 โครงการเอื้ออาทร2 (วัดกู้) ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.ปากเกร็ด รุดเข้าช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นทางขึ้น-ลง บันไดหนีไฟ ชั้น 4 พบเด็กทารกเพศหญิง ผิวขาว ยังมีสายรกติดอยู่ แขนขาเคลื่อนไหวได้ เด็กไม่ได้ส่งเสียงร้อง ร่างกายไม่ได้ห่อหุ้มด้วยผ้า นอนตัวเปล่าบนผ้าขนหนูสีชมพูที่ปูพื้นไว้ น.ส.สุทัตตา ผิวเหลือง อายุ 44 ปี และ ด.ญ.เน็ต อายุ 7 ปี พลเมืองดีที่อาศัยอยู่ที่ชั้น 4 ตึกดังกล่าวเป็นผู้พบเห็น

น.ส.สุทัตตา ผิวเหลือง กล่าวว่า ตนใช้ลูกสาวไปเก็บรองเท้าที่ตากไว้ตรงช่องพักทางลงบันได้หนีไฟ จากนั้นลูกสาวได้วิ่งมาบอกว่ามีเด็กเล็กนอนอยู่ตรงทางหนีไฟ ตนจึงวิ่งไปดู ตอนแรกก็กลัวจึงใช้ไฟฉายส่องดูเห็นเท้าเด็กเคลื่อนไหว แต่เด็กไม่ได้ส่งเสียงร้องจึงเข้าไปดูพบว่าเป็นเด็กทารกจริงจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนก็อาศัยอยู่ที่ชั้น 4 ไม่พบว่ามีใครท้องหรือมีลูกอ่อน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจนทราบว่า น.ส.นัท (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ที่อาศัยอยู่ที่ชั้น 4 ตึก34 ห้องอยู่ใกล้กับทางหนีไฟ โดยนางหน่อย (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี แม่ของแฟนหนุ่มเดินทางกลับมาจากทำงานและทราบเรื่องพบเด็กทารก จึงขึ้นไปตาม น.ส.นัท และพบแฟนของลูกชายมีอาการอ่อนเพลียเนื่องจากเสียเลือด สอบถามจนน.ส.นัท ยอมรับว่าขณะที่อาบน้ำ ได้คลอดทารกออกมา ด้วยความที่ตกใจไม่รู้จะทำอย่างไรจึงใช้กรรไกรตัดสายสะดือ แล้วนำไปวางไว้ที่ทางหนีไฟ จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามา มีเสียงคนจำนวนมาก เกิดความกลัวจึงไม่กล้าแสดงตัว

จากนั้นได้มีการติดต่อ นายเต้ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี แฟนของ น.ส.นัท ให้ทราบเรื่อง ซึ่งนายเต้ กล่าวว่า ปกติแฟนสาวจะไปๆมาๆระหว่างหอพักนักศึกษา กับที่บ้านของตน ตนไม่ทราบมาก่อนว่าแฟนสาวท้อง มีแต่ได้ยินแฟนบ่นว่าอ้วนขึ้น และได้ยินแฟนบอกว่าประจำเดือนก็เพิ่งจะมา พอมารู้วันนี้ว่าแฟนคลอดลูกออกมา ตนก็จะรับผิดชอบดูแลลูกและแฟนสาวต่อไป ตนคิดว่าที่แฟนของตนเอาลูกไปวางทิ้งไว้ที่บันไดหนีไฟคิดว่าเขาคงกังวลกลัวว่าตนจะรับไม่ได้ เพราะยังเรียนหนังสืออยู่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ