อนาคตดับวูบ ตำรวจบุกรวบ พยาบาลสาว วิศวะหนุ่มคาบ้านพร้อมของกลางเพียบ

อนาคตดับวูบ ตำรวจบุกรวบ พยาบาลสาว วิศวะหนุ่มคาบ้านพร้อมของกลางเพียบ

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม โดยปูพรมตรวจค้น 60 จุดใน 42 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหา 50 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน 77 กระบอก ระเบิดปิงปอง 1 ลูก เครื่องกระสุนปืนชนิดต่างๆ รวม 2,440 นัด

สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ที่เน้นย้ำสั่งการให้ดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้วันเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 66 โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม ก่อนวันเลือกตั้ง ในห้วงระหว่างวันที่ 4-10 พ.ค. 66

โดยคดีที่น่าสนใจเป็นการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหารายสำคัญ เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งมีพฤติการณ์จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในระบบออนไลน์ โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลและซุ้มมือปืน โดย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 และทีมงาน ได้ขยายผลพบรายละเอียดของการสั่งซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากโดยตำรวจได้ล่อซื้อกระสุนปืน 1 กล่อง พบต้นทางส่งมาจากบ้านเลขที่ 29/59 ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จึงขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าว พร้อมจับกุม น.ส.พิตตินันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี อาชีพพยาบาล รพ.แห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา และนายชยุต (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี อาชีพวิศวกร ตรวจยึดอาวุธปืนขนาดต่างๆ 19 กระบอก แบ่งเป็นปืนมีทะเบียน 17 กระบอก ในจำนวนนี้มีปืนของทหารที่ถูกนำมาจำนำ 1 กระบอก และปืนบีบีกัน อีก 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืนกว่า 2,000 นัด

สอบสวน น.ส.พิตตินันท์ ให้การอ้างว่า อาวุธปืนทั้งหมดเป็นของแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นวิศวกรช่างกล ได้นำชื่อตนเองไปซื้อ เพราะได้สิทธิสวัสดิการ แต่ไม่ทราบเรื่องการจำหน่ายสินค้า โดยแฟนหนุ่มได้ให้ตนเองนำไปส่งให้ โดยที่ไม่ทราบว่าข้างในเป็นอาวุธปืน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติทั้งหมดพบว่า พยาบาลสาวคนดังกล่าวได้ซื้ออาวุธปืนสวัสดิการทั้งสิ้น 21 กระบอก ภายในปี 62-63 และต่อมาในปี 65 ซื้อเพิ่มอีก 1 กระบอก ซึ่งมากผิดปกติ จึงได้แจ้งข้อหาพยาบาลสาวและแฟนหนุ่มในความผิดฐาน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, จำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนบางกระบอกพบว่า มีบางส่วนเป็นปืนบีบีกันแต่มีการเปลี่ยนแปลงลำกล้อง ยกตัวอย่างเช่น ปืนขนาด .22 แต่มีการดัดแปลงลำกล้องเพื่อให้ใช้กับกระสุน M4 ได้ ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายเนื่องจาก ตามกฎหมายระบุประชาชนสามารถครอบครองอาวุธปืนได้เพียงขนาด .22 ซึ่งถือว่าผิดวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ยังพบว่าใช้ช่องโหว่ของกฎหมายซื้อปืนสวัสดิการในราคาถูก แต่ปืนอยู่กับบุคคลอื่นแต่ต้องสลักหลังทิ้งไว้พอ 5 ปีถึงโอนได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ทาง บช.สอท.อยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อขยายผลกวาดล้างต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ