จากกรณีได้มีผู้เสียหายไปลงทุนเล่น แชร์แม่มณี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อเอาผิดกับเน็ตไอดอลชื่อดัง แม่มณี แม่ค้าขายตุ๊กตาออนไลน์ ชาว ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ก่อนโด่งดังเป็นเน็ตไอดอลสาว โดยผู้เสียหายถูกหลอกให้มาร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ โดยอ้างว่าได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 93

ล่าสุด ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดี เดียร์ วันทนีย์ อดีตเน็ตไอดอล กับพวกรวม 9 คน เป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน จากคดีแชร์แม่เดียร์ ก๊วนแชร์แม่มณี หลอกประชาชนมาร่วมออมเงิน หรือลงทุนวงแชร์ อ้างจะให้ผลตอบแทนสูง ลงทุนวงละ 1,000 บาท จะได้รับผลตอบแทน 930 บาท ต่อหนึ่งวง เมื่อครบกำหนด 9 เดือน

รวมถึงมีการเปิดวงแชร์ลงทุนระยะสั้นอีกหลายวง แต่ไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนจริง และไม่มีเงินจ่ายผลตอบแทนให้ผู้เสียหายตามสัญญา เป็นเพียงอุบายให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินของผู้เสียหาย จำนวน 2,533 ราย ความเสียหายทั้งสิ้นรวมกว่า 1,376 ล้านบาท

เมื่อปี 2562 ราชทัณฑ์เบิกตัวจำเลย 8 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำมาศาล และจำเลยอีก 1 คน ซึ่งได้ประกันตัวไปก่อนหน้านี้ ได้เดินทางมาศาลตามนัด ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นางสาววันทนีย์ และสามี ซึ่งตกเป็นจำเลย ที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้ลงโทษจำคุก ความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นโทษหนักสุด ลงโทษกระทงละ 5 ปี เป็นจำนวน 2528 กระทง รวม 12,640 ปี แต่จำเลยทั้งสองคนให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 5,056 ปี แต่กฎหมายให้รับโทษสูงสุดคนจำคุกคนละ 20 ปี และให้ชดใช้เงินคืนให้แก่ผู้เสียหายพร้อมดอกเบี้ย

ส่วนมารดาของนางสาววันทนีย์ จำเลยที่ 5 ไม่ปรากฎว่าชักชวนผู้เสียหายให้ร่วมลงทุน ส่วนที่ปรากฎชื่อเป็นเจ้าของอาคาร ก็เป็นเรื่องปกติที่ลูกสาวจะซื้อทรัพย์สินให้มารดา ศาลจึงพิพากษายกฟ้องมารดาของนางสาววันทนีย์ เช่นเดียวกับจำเลยที่เหลือ ซึ่งปรากฏหลักฐานว่าเป็นเพียงลูกจ้าง ที่ทำตามคำสั่งของนางสาววันทนีย์ ไม่มีพฤติการณ์ชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุน และไม่ได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติมนอกเหนือจากเงินเดือน 9,000 บาท พิพากษายกฟ้อง โดยทันทีที่สิ้นสุดคำพิพากษา ญาติและครอบครัวของจำเลยที่ 3-9 ต่างพากันดีใจ ลุกขึ้นโผล่เข้ากอดจำเลยทั้งน้ำตา และร้องไห้ด้วยความยินดี

โดยพี่สาวและญาติของจำเลยที่ 3-4 ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกจ้างที่ศาลยกฟ้อง เปิดใจว่าหลังฟังคำพิพากษารู้สึกว่ายุติธรรม ดีใจและพอใจมากกับการรอคอยมา 3 ปี 6 เดือน เพราะน้องตนเองบริสุทธิ์ ที่ผ่านมาน้องเข้าไปทำงานกับนางสาววันทนีย์ได้ไม่ถึงปี ทำงานฝ่ายบัญชี โดยไม่รู้มาก่อนว่าเกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่หรือการไปหลอกคนอื่น เขาสั่งอะไรก็ทำตามคำสั่ง เป็นเพียงลูกจ้างนายจ้างเท่านั้น และไม่ได้มีส่วนในการชักชวนลงทุนหรือได้ผลประโยชน์แต่อย่างใด