กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงอีกแล้ว สำหรับเวทีประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 หลังจากเฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ มิสแกรนด์ลำพูน ได้ปฏิเสธกิจกรรมดูดวง ต่อหน้า ณวัฒน์ อิสรไกรศีลโดยบอกว่า ตนเองลำบากใจ เพราะนับถือศาสนาคริสต์ และขอให้น้องสาวขึ้นมาทำกิจกรรมแทน

ซึ่งทาง ณวัฒน์ ได้บอกว่า ตนเองและเพื่อนก็เป็นคริสต์กันหมด แต่จะสอนว่าการอยู่ร่วมกันในสังคม มันคือความหลากหลาย การยึดติดในสิ่งบางสิ่งจะเป็นอุปสรรคของเรา พี่ดูดวงให้ตอนนี้ได้เลย เพราะว่างานศิลปินต้องใช้ศาสตร์ครบสูตร

เพราะฉะนั้น เฌอเอมต้องคิดให้ดี ถ้าเฌอเอมไม่ยอมอยู่กับคนทุกประเภท เฌอเอมจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ ศาสนาเป็นเพียงรสนิยม ไม่ใช่ชีวิตไม่ใช่จิตใจ ไม่มีใครให้ชีวิตเรา คนที่ให้ชีวิตเราคือพ่อแม่ คนที่ทำให้เราโตได้คือตัวเราเท่านั้น

ถ้ายังคิดแบบนี้ นี่คืออุปสรรค เพราะงานของมิสแกรนด์ไทยแลนด์ เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเยอะมาก ศาสนาจะทำให้เราเจริญหรือถอยหลัง มันไม่ใช่ มันอยู่ที่ตัวเรา ถ้ายังติดกับดักตัวเองแบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้

ทั้งนี้ เฌอเอม ได้พยายามชี้แจงว่า ขอโอกาสพูดสักครั้ง เพราะว่าจะไม่มีโอกาสพูดแล้ว และอยากให้เพื่อนขึ้นมาถามคำถามให้ แต่ทาง ณวัฒน์ ยืนยันว่า จะไม่มีสิทธิ์เหนือคนอื่น ถ้าวันนี้เฌอเอมบอกไม่อยากประกวด ให้คนอื่นขึ้นแทนได้ไหม ก็ไม่ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วทาง เฌอเอม ได้บอกว่า ขออนุญาตคืนไมค์

หลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่มองว่า เรื่องความเชื่อทางศาสนา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเอามาก ๆ ซึ่ง ณวัฒน์ ไม่เคารพสิทธิ์ส่วนบุคคล ทั้งที่ผ่านมามีการเรียกร้องประชาธิปไตย และอยากให้รับฟังความเห็นของผู้เข้าประกวดมากว่านี้ ขณะที่บางส่วนมองว่า เวทีนี้คือของณวัฒน์ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกาของกองประกวด

ต่อมาได้มีคลิป ณวัฒน์ ได้สอบถาม หมอแพม เปรมิกา เกี่ยวกับการดูดวงของ เฌอเอม โดยหมอแพมบอกว่า เฌอเอมเคยดูดวงกับตนมาแล้วเมื่อปี 2020 วันนี้ที่ไม่ดูก็ไม่เข้าใจ หรืออาจจะคนเยอะ ซึ่งทางเฌอเอมได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า

เคยดูดวงกับพี่แพมครั้งนึงตอนปี 2020 ซึ่งเอมไม่ได้สมัครใจ แต่ก็เลือกทำเพื่อให้ทุกฝ่ายประนีประนอมกันได้ เอมรู้สึกไม่ดีกับการตัดสินใจของตัวเอง จึงไม่ได้ดูดวงอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น

นอกจากนี้ ณวัฒน์ ได้ไลฟ์สดตอนหนึ่งว่า มีผู้ใหญ่เลือกแค่ 10 คน ตนไม่ได้เลือกเอง แต่น้องบอกว่าน้องไม่ไป น้องทำไม่ได้ ไม่ต้องโยงไปเรื่องศาสนา ที่ตนพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องกิจกรรม ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดปัญหา แม้กระทั่งมุสลิม เพราะเขาเข้าใจว่าเป็นกิจกรรม

ถ้าผมมอบหมายให้คุณไปทำงาน หรือลูกค้าให้ไปทำงาน แล้วเป็นสิ่งที่คุณทำไม่ได้ การทำงานมันก็ไม่บรรลุ แล้วบริษัทของตนต้องถูกต่อว่า หรือถูกฟ้องใช่ไหม แล้วอะไรจะเกิดอะไรขึ้นกับองค์กรตน หาคนพร้อมใช้ที่ไม่มีเงื่อนไข คนที่เข้าใจโลกแบบง่าย ๆ สร้างความสำเร็จให้ตัวเองด้วยมันสมอง แล้วเอาไปช่วยคนอื่น แล้วผมก็ไม่ได้บอกว่าเขาจะตกรอบเพราะเขายังมีสิทธิ์

ถามว่าเป็นสิทธิ์ส่วนตัวไหม ถ้าเรื่องส่วนตัวเป็นสิทธิ์ส่วนตัว ถ้าทำกิจกรรมอยู่ ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผมพูดถึงกิจกรรม ไม่ต้องลากผมไปศาสนาใด ๆ ทั้งสิ้น ผมยังไม่รู้เลย เขานับถือศาสนาอะไร ผมรู้ว่าเขาดูดวง เขาไปวัด เจอกันครั้งล่าสุดคือเขาดูดวงกันเอง

เรียบเรียง siamnews