หนิง ปณิตา กลั้นน้ำตาตอบ หลังถูกถามถึง ครอบครัวจิน

หนิง ปณิตา กลั้นน้ำตาตอบ หลังถูกถามถึง ครอบครัวจิน

เรียกได้ว่าเป็นการออกมาพูดครั้งแรกสำหรับ หนิง ปณิตา หลังจากมีกระแสข่าวลือมาพักใหญ่ ล่าสุด

หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวชีวิตคู่กับ จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ ผ่านรายการคุยแซ่บโชว์วันนี้ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา เผยสามี มีผู้หญิงทีก็ขอหย่าที ที่ผ่านมาท้าหย่าตลอด จนรู้สึกเหนื่อย และอยากจบ เพราะไม่อยากเกลีย ด ขณะที่ตอนนี้แยกกันอยู่ ยังไม่เซ็นหย่า แต่พร้อมหย่า และได้ทำข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว

การมาสัมภาษณ์วันนี้ได้พูดคุยและปรึกษาณิรินแล้ว เขาก็พร้อมจะเข้าใจ มีการพูดคุยเป็นขั้นตอนเรียบร้อย ว่าการสอนลูกจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและแก้ปัญหาจากเรื่องจริงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ล่าสุดที่โพสต์ ถามว่าตัดสินใจยังไง ยอมรับว่าสภาพจิตใจเรา เห็นเราเป็นแบบนี้ เราพยายามสตรองมากกว่า แต่จริงๆ ไม่ใช่คนสตรองเลย ตัดสินใจนานนะกว่าจะโพสต์แบบนั้น ถ้าเมื่อก่อนคิดปุ๊บทำปั๊บทันที เดี๋ยวนี้คิดปุ๊บเขียนเสร็จ นั่งถอยมาสองชม. หรือทำอะไรช้ามาก ดึงจนบางคนไม่เข้าใจว่าดึงอะไร แต่เมื่อตัดสินใจทำแล้ว ขอให้เกิดข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด

เหตุผลที่คิดว่าพร้อมพูดเพราะสุดแรงเอื้อม ขอจบปัญหาเอง เริ่มกระทบ และลามไปคนรอบๆ ข้าง เราคิดว่าเรื่องนี้เราน่าจะเคลียร์หลังบ้านได้ แต่ได้รับการเคลียร์หลังบ้านมาประมาณนึงแต่มันไม่สำเร็จ มันไม่ควรมีข่าวเกิดขึ้นอีก แต่ข่าวเกิดขึ้นเรื่อยๆ การตัดสินใจเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่ ตัวหนิงข้อผิดพลาดในชีวิตคือตัดสินใจเร็ว แรง ใจร้อน แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด การใช้ชีวิตหลายๆ เรื่อง ต้นเหตุ หนิงไม่ผิด แต่จบด้วยหนิงเป็นคนผิดทุกครั้ง เพราะหนิงขาดสติและใช้อารมณ์ มันเป็นปมในใจหนิงตลอดๆ พยายามแก้ไขตรงนี้ เพราะกำลังสอนลูกให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติกับสังคมที่เกิดอะไรก็ไม่รู้หนิงแข็งแรงต่อหน้าทุกคน แต่เวลาถอยไปอยู่คนเดียว คนใกล้ตัวจะเห็นว่าหนิงเป็นยังไง เมื่อสุดแรงเอื้อม หนิงขอจบปัญหาเองดีกว่า

ตลอด 10 ปี ปรับเยอะมาก ทุกวิถีทาง จากเป็นผู้หญิงทำงานแล้วกลับบ้าน เพราะกลัวแก่ กลัวไม่สวย ปาร์ตี้บ้าง ไปเที่ยว แต่ระยะยาวมันนานเข้าก็รู้สึกว่าเช้าหญิงต้องทำงาน แล้วหนิงทำงานไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ตัวหนิง เราก็ต้องกลับมาในจุดที่เป็นตัวหนิง มันเหนื่อยค่ะ ปรับแล้วแต่ยังไม่ดี ไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นเกิดจากตรงไหน ปัญหานี้มีมาเรื่อยๆ ตั้งแต่มีข่าวใหญ่โตในอดีต หลังจากนั้นก็มีมาอีกเรื่อยๆ คนเราพอปรับไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตหลายๆ อย่าง บางทีเราก็ยอมรับว่าเราก็ผิด เราไปจิก ไปตาม หลายๆ อย่าง จนสุดท้ายเราก็ยอมรับ ถ้าจะมีลูกเลยก็ทำใจได้

ถ้าเขามีผู้หญิงอื่นในขณะที่เราอยู่ในสถานะภรรยาก็รับได้ แต่ต้องไม่ล้ำเส้นกัน ต้องไม่ให้เราออกมาพูด ออกมาเคลียร์ ไม่กระทบกับความรู้สึกลูกเรา คิดว่าชีวิตก็น่าจะอยู่ตัวแล้ว ไม่คิดไม่ฝัน ตอนนี้ก็ยังคิดว่ามันจริงใช่ไหม แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจริง จะหลอกตัวเองว่าไม่จริง แล้วปล่อยให้เรื่องเงียบๆ ซาๆ แล้วออกมาพูดเบาๆ แล้วปล่อยให้เงียบๆ เหมือนที่ผ่านมา มันทำมาตลอด แต่ ณ วันนี้มันแรงขึ้น เลยตัดสินใจว่าผ่าตัดทีเดียวให้มันจบ แล้วรักษาแผล รักษาใจหลังจากนี้ ให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างมีพลัง

ไม่อยากเกลียดจิน อยากให้มีโอกาสจับมือกันเพื่อลูก คิดตั้งแต่ปลายปี ปล่อยให้มีอิสระ จะทำอะไรก็ทำ ตัดสินใจพูดวันนี้ เชื่อว่าจบแบบนี้ หนิงก็มีส่วนผิด แต่หนิงทำในส่วนที่หนิงผิดดีที่สุดแล้ว หนิงไม่อยากเกลียดจิน อยากให้วันนี้มีโอกาสจับมือกับจินเพื่อลูก แต่ถ้าดึงไปมากกว่านี้ หนิงไม่อยากนั่งแอ๊บ คนเราช้ำเยอะๆ เปลี่ยนจากความช้ำเป็นเกลียด รักเยอะ รักมากก็เกลีย ดมากหนิงไม่อยากเกลียด อยากจับมือกับเขาต่อ แต่ในสถานะพ่อของลูกหนิงไม่ใช่สถานะเขาเป็นสามีหนิง หนิงไตร่ตรองมาจนสุดแล้ว และน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด และเป็นวิธีที่จินเองจะได้มีอิสระ ทำทุกอย่างได้มีความสุข ไม่ทำให้ใครเสีย

ส่วนเรื่องเอกสารไม่จบเพราะฝ่ายสามีไม่ทำอะไรเลย แต่เอกสารนี้ที่ไม่จบ คือจิน ไม่มาทำอะไร ในสิ่งที่จิน ตกลงว่าจะทำ สิ่งที่ห่วงที่สุดเลย ถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดกับชีวิตหนิง คนเป็นแม่จะรู้ดีว่าความมั่นคงของลูกเราจะเป็นยังไงในอนาคต หนิงห่วงอยางเดียวคือณิรินเท่านั้น สิ่งที่หนิงขอให้ทำกับณิริน เป็นเรื่องเล็กมาก ถ้าหนิงจะทำสิ่งเหล่านั้นเองในวันนี้ หนิงก็ทำได้ แต่หนิงคิดว่าอย่างน้อยให้ลูกภูมิใจว่าพ่อได้ทำหน้าที่การเป็นพ่อให้กับลูก หนิงก็เชื่อว่าเขารักลูก แต่หนิงไม่ต้องการอะไรที่เป็นปากเปล่า ปากเปล่าใครจะพูดอะไรก็ได้ พอเราแยกสถานภาพความเป็นสามีภรรยาเราเป็นคนนอก เราไม่มีสิทธิ์อะไรไปสั่งเขา เราควรทำเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นเอกสาร ถ้าวันนึงแยกกัน เป็นเพื่อนกัน เราต้องไม่ทะเลาะกันด้วย ต้องคิดอะไรละเอียดและไกลๆ ถ้าต้องทะเลาะกันในฐานะความเป็นเพื่อน ก็ไม่ต้องเลิกกันดีกว่าไหม

เอกสารนี้หนิงได้เซ็นเรียบร้อยแล้ว เป็นแค่ข้อตกลง ยังไม่ได้มีการจด เซ็นใบหย่าใดๆ จากวันนั้น จนถึงวันนี้ หนิงก็รอการที่จะมาเคลียร์ว่าจะทำยังไง และหนิงไม่ได้รับการเคลียร์ตรงนั้นเลย ซึ่งหนิงไม่รู้ต้องทำตัวยังไง พอมีข่าวก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะกำลังแก้ปัญหาหลังบ้านให้ดีที่สุด หวังว่าเดี๋ยวก็กลับมาน่ะ แต่ข่าวล่าสุด หลังบ้านมีอะไรวุ่นวายกว่านั้นเยอะ จนหนิงคิดว่าถ้าหนิงไม่นำก็ไม่จบ

และมีช่วงหนึ่งในรายการ พิธีกร ถามหนิงว่า แล้วครอบครัวของจินล่ะ คุณปู่ คุณย่า มันจะมีผลกระทบไหม

หนิงพูดก็มีผลกระทบ หนิงไม่พูดก็มีผลกระทบ ไม่ว่าหนิงจะทำอะไร ไม่ว่าหนิงจะทำอะไรก็กระทบหมด แต่ถ้าหนิงไม่ตัดสินใจ เป็นผู้นำในการแก้ปัญหาครั้งนี้ ผลกระทบระยะยาวมันจะหนักกว่า และหนิงก็เชื่อว่าทุกคนเข้าใจหนิง ก่อนที่หนิงจะมาที่รายการหนิงเองก็ปรึกษามากที่สุด คือคนสำคัญที่สุดในชีวิตหนิงก็คือลูก

ขอบคุณ ภาพจาก รายการคุยแซ่บ show

เรียบเรียง สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ