
ผวาเกิดอาเพศต้นตาลยักษ์อายุนับ100 ปี หักโค่นลงเสียงดังสนั่น หลังชาวบ้านพากันขับไล่เจ้าอาวาสดังสาวสองพ้นวัด
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวนาวังหมู่2 ต.นาเสียว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มศาลาวัดฯได้รับความเสียหาย เหตุเกิดภายในวัดประจิม หมู่บ้านนาวัง หมู่2 ต.นาเสียว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย อบต.นาเสียว รุดไปให้ความช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหน้าศาลา มนดบ ของหลวงปู่หล้า ข้างพระอุโบสถ ภายในวัดวัดประจิม พบต้นตาลขนาดใหญ่ สูงยาว เสียดฟ้า อายุกว่า 100 ปี ขนาดประมาณกว่า 1 เมตร ยาว 10เมตร สภาพบริเวณโคนต้นตัดผ่าแยกออกจากกันเป็น 2 ส่วน โดยลำต้น กิ่งกานและยอดต้นตาล ได้โค่นล้มลงฟาดเขากับชายคาของศาลามนดบ หลวงปู่หล้า เป็นสิ่งศักสิทธิ์ คู้บ้านคู้เมือง ที่ชาวบ้านเคารบนับถือ
ซึ่งก่อนหน้านี้ที่วัดดังกล่าวชาวบ้านได้เกิดเรื่องขัดแยกกับเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว จนมีเรื่องร้องเรียนกันใหญ่โต ไปถึงเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิเรื่องที่เจ้าอาวาส(สาวประเภทสอง)ได้มีพฤติกรรมไม่หน้าไว้วางใจและมักสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวบ้าน จนชาวบ้านแตกแยกกันแบ่งก๊กแบ่งเหล่า จนชาวบ้านต่างพากันสุดเอือมระอาในพฤติกรรม จึงรวมตัวกันจะออกมาถือป้ายขับไล่เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวให้ออกจากวัดฯไปแต่เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวไม่ยอมออกจากวัดฯยังยืนการจะออยู่ต่อไป ร้อนถึงเจ้าคณะตำบลฯได้มาขอร้องชาวบ้านเอาไว้และได้เรียกเจ้าอาวาสวัดฯดังกล่าวมาอบรมสั่งสอนพร้อมให้ทำหนังสือลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาส วัดฯดังกล่าว จนเจ้าอาวาสฯรูปดังกล่าวยินยอมขนข้าวของออกจากวัดดังกล่าวไปโดยดี
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2เมษายน 2566 ที่ผ่านมาและเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 เมษายน ในวันเดียวกันก็ได้เกิดอาเพศท้องฟ้ามืดครึมมีกลุ่มเมฆดำทะมึนลอยมาปิดบังดวงพระอาทิตย์และเกิดลมพายุหัวกุด ลมกระโชกแรง พักผ่านเข้ามาในวัดฯอย่างรุนแรง แรงลมได้ พัดเอาต้นตาลอายุนับ 100 ปีขนาดใหญ่สูงเสียดฟ้า ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่ เป็นต้นไม้อยู่คู่วัดแห่งนี้ และถือเป็นต้นไม้คู่บ้านคู่เมืองชัยภูมิมายาวนาน อยู่กลางลานวัดฯดังกล่าว ได้หักโคนล้มลงมาอย่างไม่มีปี่มีขุ่ย ฟาดใส่ศาลามนดบ เกิดเสียงได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายระเบิด ต่างวิ่งออกมาดูกันอย่างโกลาหน พบว่า ต้นตาลขนาดใหญ่ได้ล้มลงมาฟาดเข้ากับชายคาของศาลามนดบ หลวงปู่หล้า ที่เป็นที่เคารบนับถือของชาวบ้านได้รับความเสียหายดังกล่าว ทางด้านประชาชนที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียงได้พากันแตกตื่นออกมามุงดู และต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ไปต่างๆนานาว่าก่อนเกิดเหตุไม่มีสัญญาณบ่งบอกใดๆ ไม่ว่าจะเป็นลมกระโชกแรง หรือมีพายุพัดรุนแรงเกิดขึ้นเลย และเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ก็มีฝนตก ลมพัดแรง แต่ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น แต่วันนี้ต้นตาลที่เก่าแก่กลับหักโค่นลงมาเอง ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับพระสงฆ์ สามเณร และประชาชนเป็นอย่างมาก จึงทำให้ชาวบ้านหลายคนเกรงว่าอาจเป็นสัญญาณอาเพศ หรือเป็นการเตือนภัยให้ประชาชนชาวชัยภูมิ และอาจเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ขึ้นกับบ้านเมืองชัยภูมิก็เป็นได้ ประกอบกับปีนี้ ประชาชนชาวบ้านนาวัง ต.นาเสียว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ มีความวิตกกังวลกันเป็นอย่างมากว่าจะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ขึ้นอีกเหมือนปีที่ผ่านมา
ขณะที่ชาวบ้านเตรียมทำพิธีสูตรถอนตามความเชื่อกลุ่มคณะศรัทธาและชาวบ้าน ได้ช่วยกันเก็บกวาดซากปรักหักพังที่เสียหายจากต้นตาลใหญ่โค่นทับ รวมไปถึงเตรียมจัดพิธีสูตรถอน ตามความเชื่อของชาวล้านนา เพื่อป้องกันอาเพศภัยที่อาจจะเกิดขึ้น
ด้านนางสาวสมจิต บัวแสง ชาวบ้านเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางวัดสังเกตเห็นว่าต้นโพธิ์ มีสภาพค่อนข้างแห้ง จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาขณะที่พระลูกวัดกำลังจำวัดกันอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังสนั่น จึงพากันออกมาดูก็พบว่าต้นตาลที่ตั้งอยู่กลางวัดได้ล้มลงทับศาลามนดบ หลวงปู่หล้า โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และชาวบ้านต่างมีความเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดอาเพศอาถรรพ์ ที่ก่อนหน้านี้มีสิ่งไม่ดีอยู่ในวัดฯและเมื่อมีการขับไล่สิ่งไม่ดีไปแล้ว คงเกิดอาเพสดังกล่าวขึ้นและชาวบ้าน ได้ช่วยกันเก็บกวาดซากปรักหักพังที่เสียหายจากต้นตาลใหญ่โค่นทับ รวมไปถึงเตรียมจัดพิธีสูตรถอน ตามความเชื่อของผู้เฒ่าผู้แก่โบราณว่าไว้ เพื่อปัดเป่าป้องกันไม่ให้เกิดอาเพศภัยที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป
ข่าวโดย วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ชัยภูมิ