จากกรณีที่นายสมภพ มีจั่นเพ็ชร์ อายุ 46 ปี อาชีพ รปภ. ถูกล้อสิบล้อพ่วงเฉี่ยวชนขณะขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างกลับบ้าน ที่บริเวณเส้นเลียบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเวลา 06.03 น. วันที่ 11 มีนาคม 2566 ได้รับบาดเจ็บบาดสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งรถสิบล้อพ่วงคันก่อเหตุได้ขับหลบหนีไป ซึ่งทางญาติได้มาร้องกับทางสื่อมวลชน หวั่นจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามที่เคยได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 20 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบัติ มีจั่นเพ็ชร์ อาของผู้ตาย พร้อมญาติพี่น้องกว่า 30 คน ได้เดินทางมาที่ร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนางสาววันดี มีจั่นเพ็ชร์ อายุ 19 ปี ยืนถือรูปหน้าศพนายสมภพ มีจั่นเพ็ชร์ พ่อตัวเองด้วยความโศกเศร้า ซึ่งทางญาติได้ชูป้ายที่เขียนข้อความใส่กระดาษแข็ง ข้อความในป้ายระบุว่า ประมาท-หนี้-ไม่ช่วย ญาติไม่ต้องขอโทษ ไม่ต้องการเยียวยา ติดคุกพอ , คนจนไม่ใช่คนผิดเสมอคุกใช้ขังคนผิด , ขอท่านผู้บังคับบัญชา กำกับดูแลคดีขอเปลี่ยนร้อยเวรเพราะคดีไม่คืบ ไม่เป็นธรรม , หลักฐานหากันเอง พี่หนูไม่ผิด คนผิดยังลอยนวล

โดยว่าที่ร้อยตรี ศุภมงคล บูชาถ่ายเทพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ลงมารับเรื่องด้วยตนเอง พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม ผู้แทนจากกองบังคับตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และ รองผู้กำกับ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้เชิญญาติไปสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมหาทางช่วยเหลือ ภายในศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ญาติรอติดตามเรื่องอยู่บริเวณหน้าศาลากลางทาง ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทราบเรื่องได้เดินทางลงมาให้กำลังใจญาติผู้ตายที่มาร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำธงธรรม ซึ่งทางผู้ว่าฯ ได้รับปากว่าจะติดตามเรื่องให้พร้อมจะประสานงานให้ไม่ทอดทิ้งแน่นอน ซึ่งทางญาติได้ยินต่างก็ดีใจยกมือไหว้ขอบคุณทางผู้ว่าฯ

และโอกาสนี้ ว่าที่ร้อยตรี ศุภมงคล บูชาถ่ายเทพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชน ในส่วนนี้ตนได้เข้ามากำกับดูแลตรงนี้แล้ว ก็ขอสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคดีนี้ และขอให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมอย่างเต็มที่

ทางด้านนายสมบัติ มีจั่นเพ็ชร์ อาผู้ตาย เล่าว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมก็ได้ทราบข้อมูลเพิ่มขึ้น ซึ่งทีแรกทางร้อยเวร ไม่ได้บอกไม่ได้กล่าว ให้ทราบเลย หลังจากการมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมก็ได้ทราบว่าตอนนี้สามารถจับตัวคนขับรถได้แล้ว และดำเนินคดีแล้ว ในข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่ทางตนเองก็ยังไม่เห็นหน้าคนขับรถคันก่อเหตุ และก็ยังไม่เคยเห็นของกลางว่าอายัดไว้หรือยัง ซึ่งไม่ได้รับการติดต่อมาแต่อย่างใด ทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นคนจน ที่ไม่รู้เรื่องอะไร ทางญาติถึงได้รวมตัวกันมาร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม ให้ช่วยทางด้านคดี ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าคดีจะนานแค่ไหน ทางตนผิดหรือว่าทางเขาผิด แต่จากการที่ดูกล้องวงจรปิดแล้วทางเราไม่น่าผิด เพราะว่าคนดูทั่วประเทศเห็นคลิปแล้วก็บอกว่ารถพ่วงผิด แต่การทำงานไม่ได้ออกมาเหมือนในคลิปที่เราเห็น แต่กลับกลายเป็นแบบว่าห้าสิบห้าสิบ ซึ่งทางเราก็ไม่สบายใจ ทำไมไม่เหมือนกับที่เราคิด หรือกับที่ทางกฏหมายเขาทำ เราเป็นฝ่ายสูญเสีย อย่างนี้มันไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้มาร้องทุกข์กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี

ขณะที่นางสาววันดี มีจั่นเพ็ชร์ ลูกสาวผู้ตาย บอกว่า วันนี้ได้เดินทางมาคุยเรื่องของคุณพ่อ เนื่องจากเรื่องของพ่อยังไม่มีความคืบหน้า ยังไม่ได้ตัวคนร้าย ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว จนจัดงานฌาปนกิจพ่อไปแล้ว ยังไม่ได้ตัวคนร้ายเรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งตอนบ่ายวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ให้เดินทางไปที่สถานีตำรวจเพื่อตกลงกับคนขับรถว่าจะเอายังไง แต่ก็ไม่รู้ว่าคนขับรถจะมาหรือไม่ เพราะรอบที่แล้วก็บอกว่าจะมาแต่ก็ไม่มา

ข่าวโดย ปรีชา ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดกาญจนบุรี