เปิดประวัติ วิกรม กรมดิษฐ์ มหาเศรษฐีเมืองไทย ยกทรัพย์สิน 2 หมื่นล้านให้สังคม

เปิดประวัติ วิกรม กรมดิษฐ์ มหาเศรษฐีเมืองไทย ยกทรัพย์สิน 2 หมื่นล้านให้สังคม

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเศรษฐีใจบุญเมืองไทยอีก 1 คย โดยทางประธานมูลนิธิอมตะ เปิดเผยว่า ได้ตัดสินใจมอบทรัพย์สินส่วนตัวในสัดส่วน 95% มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ให้กับสาธารณะ ภายใต้การบริหารจัดการของมูลนิธิอมตะ

คลิป

ซึ่งเงินในส่วนนี้จะนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ 6-7 โครงการ โดยเฉพาะในเรื่องของทุนการศึกษา การทำหนังสือด้านความรู้ สร้างงานและอาชีพ ดูแลรักษาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขาใหญ่ รวมถึงอุทยานต่าง ๆ การสร้างบุคลากร การสร้างนวัตกรรม เช่น การพัฒนาหาบุคลากรอัจฉริยะเพื่อมาช่วยในการเดินหน้าโครงการเมืองอัจฉริยะ

สำหรับ นายวิกรม กรมดิษฐ์ เป็นนักธุรกิจและนักเขียนชาวไทย ผู้ก่อตั้งและ CEO บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน เจ้าของโครงการนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่งในประเทศไทย ปัจจุบันเป็นนักเขียนและใช้ชีวิตอยู่ที่ดงกุฎาคาร เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

เกิดวันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2496 ที่ตลาดท่าเรือจังหวัดกาญจนบุรี บรรพบุรุษสืบเชื้อสายมาจากชาวจีนแคะ หรือฮากก้า ซึ่งอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในชุมชนท่าเรือเมื่อ 150 กว่าปีมาแล้ว และมีเชื้อสายมอญจากยาย เขาเป็นลูกชายคนโต จากพี่น้องแม่เดียวกันและต่างแม่ 21 คน

จบการศึกษาปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกลจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน มีความสนใจการค้าตั้งแต่ยังเล็ก โดยรับช่วงต่อในกิจการร้านถั่วคั่วจากป้าขณะเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เมื่อเรียนจบได้กลับมาเปิดบริษัท วี แอนด์ เค คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นธุรกิจนำเข้าส่งออก

ต่อมาหันมาบุกเบิกธุรกิจด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม 2 แห่งในประเทศไทยและอีก 1 แห่งในประเทศเวียดนาม มีโรงงานกว่า 1300 โรง มียอดการผลิตที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมทั้งสองประเทศมูลค่าการผลิตกว่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีพนักงานที่ทำงานในนิคมทั้งหมดกว่า 3 แสนคน

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด มหาชน และประธานมูลนิธิอมตะ และสนใจการเขียนหนังสือ

และช่วงปี 2551 นิตยสารฟอร์บส์ได้จัดอันดับให้ วิกรม กรมดิษฐ์ ให้ติดอันดับ 40 มหาเศรษฐีในเมืองไทยแถมยังได้รับรางวัลมากมาย และในช่วงปี 2554 นายวิกรม ตั้งใจแบ่งเวลาในแต่ละปีเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตหลังวางมือจากธุรกิจ ด้วยรถบ้าน

และเริ่มเดินทางปยังประเทศลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ระยะเวลา 77 วัน ปี พ.ศ. 2555 เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เวียดนาม จีน มองโกเลีย ระยะเวลา 6 เดือน 13 วัน ปี พ.ศ. 2556 เดินทางไปยังประเทศลาว จีน รัสเซีย คาซัคสถาน พม่า ระยะเวลา 7 เดือน

นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสภาธุรกิจไทยจีน ร่วมกันจัดงานสัมมนาตามเมืองต่างๆ ที่คาราวานเดินทางผ่านในฐานะฑูตสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ

เพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยว การลงทุน นอกจากนี้เขายังเคยลงเส้นทางการเมือง คยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

ในปี พ.ศ. 2535 ถึงปี พ.ศ. 2536เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. 2536 ถึงปี พ.ศ. 2538 ในรัฐบาลของ นายชวน หลีกภัย ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 วิกรมถูกกล่าวถึงในแวดวงการเมืองอีกครั้ง เมื่อมีการทำนายของหมอดู ว่าอาจจะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

และในปี พ.ศ. 2557 นายวิกรมถูกนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำ นปช. กล่าวถึงว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลาง แต่นายวิกรมได้ปฏิเสธ

และหลังจากการบริจาค โดยคุณวิกรมจะมอบให้มูลนิธิ เช่น คอนโดมิเนียม ปราสาทอมตะคาสเซิล ที่ดิน และบ้านพักที่เขาใหญ่ รถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่ตนสะสมมานานแล้ว เช่น รถยนต์ลัมบอร์กินี ปอร์เช เฟอรารี่ หุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดในบมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน สำหรับแผนธุรกิจ คุณวิกรมจะถอยจากบทบาทซีอีโอ ในอมตะฯ เพื่อไปเป็นที่ปรึกษา

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ