เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ชาวโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้โพสต์ลงกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภคโดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า คืนวันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ 2566 เราใช่บริการเรียกรถจากแอพหนึ่ง จากอ่อนนุช16 ไปเฉลิมพระเกียรติ ซอย28 ระยะทางโดยประมาณ13 กม. โดยปกติจ่ายแค่ 130-150 บาทไม่เกินนี้ วันนั้นเรากดเรียกแล้วขึ้นว่ายังไม่มีคนขับกดรับงาน ทางแอพจึงรันต่อ เพื่อเรียกหาคนขับให้ ซึ่ง ณ ตอนนั้น ทางแอพไม่ได้แจ้งว่า ถ้าไม่มีคนขับกดรับ จะทำให้ค่าบริการแพงขึ้น ซึ่งอันนี้เราไม่เคยเจอจากแอพอื่นๆนะคะ เลยไม่ทราบว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย พอสักพักมีคนขับคนนึงกดรับ แล้วโทรมาว่า อีกประมาณ 12 นาทีถึงที่หมาย ลูกค้ารอได้ไหม เราบอกว่าได้ค่ะ

ภาพจาก พวกเราคือผู้บริโภค

ตอนเรียกรถในแอพ เป็นรถ toyota สีบรอนซ์ พอมาถึงเป็น มาสด้า สีแดง เราก็เอ๊ะใจแต่ไม่ได้อะไร พอขึ้น คนขับก็บอกว่าพอดีรถอีกคันเอาไปซ่อมเลนเอาคันนี้มาแทน แล้วเค้าก็เริ่มบิ้วเราว่า ลูกค้าทราบไหมครับว่าเมื่อลูกค้าเรียกรถแล้วไม่มีคนกดรับ ทำให้รัศมีการรับงานมันจะไกลขึ้น ทำให้ค่าบริการแพงขึ้นคูณจากที่กดเรียกนะครับ เราก็งงๆ แต่ก็ไม่ได้อะไร สักพักเค้าก็พูดขึ้นมาอีกเรื่องค่าบริการแพง เหมือนทำให้เราเชื่อว่ามันจะแพงขึ้นจริงๆนะ เราเลยถามว่าแพงขึ้นนี่คือเท่าไหร่คะ คงไม่แพงมากเนอะ เค้าบอกไม่ทราบครับ ผมจะทราบก็ต่อเมื่อเราไปถึงจุดหมาย ( ตอนกดเรียกขึ้น 148 บาท เราก็คิดโอเคไม่เป็นไร ถ้าจะแพงก็ไม่น่าเกิน2-3ร้อย)

ภาพจาก พวกเราคือผู้บริโภค

พอไปถึงจุดหมาย ราคาขึ้น 849 บาท เราช็อคมาก แล้วเค้าบอกต้องจ่ายครับ ถ้าลูกค้าไม่จ่าย มันจะเข้าเนื้อผม เราก็จำเป็นต้องจ่าย เพราะมันขึ้นตามแอพ ก็กลัวมีปัญหา แล้วเดี๋ยวค่อยไปติดต่อทางแอป อีกที แต่แอปติดต่อยากมาก ไม่ทีเบอร์ คุยได้แค่อีเมลล์ หรือ inbox

ภาพจาก พวกเราคือผู้บริโภค

พอสอบถามทางแชทของbolt ได้ความว่า คนขับเปลี่ยนการปักหมุดปลายทาง จากเฉลิมพระเกียรติร.9 ไปปทุมธานี เลยทำให้ค่าบริการแพงขึ้น แต่ ทาง แอป ไม่มีนโยบายคืนเงินให้ลูกค้า เจ็บใจมากกก ระวังกันด้วยนะคะ เข็ดมาก เลิกใช้ถาวร

ภาพจาก พวกเราคือผู้บริโภค

หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีชาวโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นไม่พอใจกับเรื่องนี้กันเป็นอย่างมากมาไม่ขาดสาย

ภาพจาก พวกเราคือผู้บริโภค

ภาพจาก พวกเราคือผู้บริโภค

ภาพจาก พวกเราคือผู้บริโภค

เรียบเรียง สยามนิวส์