24 กุมภาพันธ์ 2566 เกษตรกรในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ปลูกหอมหัวใหญ่(หอมจีน) ที่ปลูกโดยภายใต้การควบคุมเมล็ดพันธ์จากทางสหกรณ์หอมหัวใหญ่ฝาง จำกัด นั้น ใช้เวลาปลูก130-150 วัน โดยจะหว่านเมล็ดให้ตันหอมงอกแล้วถึงนำแยกกอ มาปลูกในแปลงใหญ่ ซึ่งทั้งหมดจะใช้เวลาถึง 150 วัน ถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ วันนี้ที่บ้านเปียงกอก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ไร่ของนางยุพิน หน่อวงค์ ที่มีที่ดินทำเกษตรมากถึง 70 กว่าไร่ ได้ทำการปลูกหอมหัวใหญ่ทั้งหมด วันนี้ได้จ้างคนงานโดยจ้างเหมาทั้งถอน ตัดใบ ขนขึ้นรถ ในราคาเหมาเป็นกิโลกรัมๆละ 50 สตางค์

จากการสอบถามผลผลิตออกมากกว่าทุกปีประมาณไร่ละ 6,000 กิโลกรัมถึง 8,000 กิโลกรัม เพราะลงหัวใหญ่มาก เนื่องจากเจ้าของได้ใช้วิธีปลูกพืชตระกูลถั่วก่อนปลูกพอออกดอกก็ได้ไถพรวนให้เป็นปุ๋ยพืชสดก่อนเตรียมแปลงปลูก แล้วใช้ปุ๋ยคอกที่หมักแล้วลงผสมในดิน จึงได้ผลผลิตมากเป็นพิเศษ วันนี้ทางสหกรณ์จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่มาควบคุมการเก็บเกี่ยวกลัวว่าจะเอาที่อื่นมาขาย ราคาที่สหกรณ์หอมหัวใหญ่ จำกัด รับและประกันไว้กิโลกรัมละ 12 บาท ซึ่งแพงกว่าพ่อค้าคนกลางที่รับซื้อตามขนาดและคุณภาพ ไม่เกินกิโลกรัมละ 10 บาท ลงทุนไร่ละ 50,000 กว่าบาท ไร่หนึ่งผลผลิตประมาณ 6,000 กิโลกรัม ราคา 12 บาทต่อกิโลกรัมจะได้เฉลี่ยประมาณ 72,000 บาท ผลผลิตทั้งหมด 70 ไร่จะขายได้ 5,040,000 บาท ยังมีกำไรเฉลี่ย ไร่ละ 22,000 บาท ผลผลิตทั้งหมด 70 ไร่ จะขายได้กำไรประมาณ 1,540,000 บาท แต่ในไร่ของเกษตรกรรายอื่นจะได้ประมาณ ไม่เกิน 5,000กิโลกรัม

ช่วงนี้เกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่จะเร่งเก็บเกี่ยวเพราะกลัวโดนฝนหรือลูกเห็บตกใส่จะทำให้ผลผลิตเสียหาย แต่ก็ต้องดูว่าพร้อมจะเก็บเกี่ยวหรือไม่ถ้ายังไม่ได้คุณภาพรีบเก็บเกี่ยวก็จะทำให้พ่อค้าแม่ค้าคนกลางไม่รับซื้อก็ยิ่งเสียหายหนักไปอีก คนที่ปลูกก่อนจะได้เก็บเกี่ยวก่อน อย่างไร่นี้ของนางยุพิน หน่อวงค์ ไม่ยอมปลูกข้าว แต่มาปลูกหอมหัวใหญ่แทนและปลูกก่อนคนอื่นจึงได้เก็บเกี่ยวก่อนคนอื่น ได้อย่างเสียอย่าง ทางสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่นั้นจะมีสมาชิกประมาณ 2,373 ราย มีพื้นที่ปลูกประมาณโดยเฉลี่ย 2,847 ไร่ ผลผลิตกำลังออกซึ่งทางสหกรณ์ก็จะดำเนินการรับซื้อจากเกษตรกรเพื่อขายสู่ท้องตลาดต่อไป และยังมีห้องเย็นเพื่อเก็บเกร็งราคาอีกจำนวนหนึ่ง

ข่าวโดย สำราญ แสงสงค์ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเชียงใหม่