แม่ผัวไม่เอาแล้ว ไล่นิ่มออกจากบ้าน ลั่น ลูกหายเธอนั่นแหละรู้ดี

แม่ผัวไม่เอาแล้ว ไล่นิ่มออกจากบ้าน ลั่น ลูกหายเธอนั่นแหละรู้ดี

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ได้รับรายงานว่า น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน หายตัวไปจากอ้อมอกแม่ที่นครปฐม ล่าสุดผ่านไปใกล้ครบ 2 สัปดาห์ ทางพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงผลตรวจดีเอ็นเอของ น้องต่อ ยืนยันว่า ผลตรวจดีเอ็นเอระหว่าง น้องต่อ กับ ลุงแจ้  อายุ 55 ปี ตรงกัน นั่นหมายความว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกที่แท้จริง ไม่ใช่นายพุด โดยลุงแจกับนายพุดเป็นคนสนิทกัน ซึ่งวันนี้ได้นำลุงแจ้เข้ามาเข้าเครื่องจับเท็จที่กองพิสูจน์หลักฐาน 1 ด้วย พร้อมซักถามและสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

ผลตรวจดีเอ็นเอของ น้องต่อ ตรงกับ ผลตรวจดีเอ็นเอ ของ ลุงแจ้ นั่นหมายความว่า ทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน ไม่ใช่นายพุด

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ลุงแจ้ ถูกนำตัวมาเข้าเครื่องจับเท็จ ที่กองพิสูจน์หลักฐาน1ด้วย และสอบปากคำเพิ่มเติมสอบถาม ลุงแจ้ โดยไม่รับน้องต่อเป็นลูก บอกสั้นๆ ไม่รู้ ก่อนวางสายทันที

ล่าสุด แม่ของ นายพุด สามีน้อง นิ่ม แม่น้องต่อ เผยว่าแม่ของ นายพุดส่วนน้องต่อ ยังรักเหมือนเดิม เพราะว่าเด็กไม่ได้สร้างปัญหาอะไร คนโตสร้างปัญหาขึ้นมากันเอง เด็กไม่รู้เรื่อง ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่า แม่ไล่นิ่มออกจากบ้านนั้น เมื่อวานแม่พูดว่า หากเรื่องนี้จบแล้ว แม่จะไม่ให้นิ่มอยู่ที่นี่ แม่ไม่ให้อยู่อย่างแน่นอน และให้ตัดขาดจากพุด แต่อยู่ที่ตัวพุดเองด้วย ว่าจะตัดขาดกับนิ่มได้หรือไม่ สำหรับเรื่องเกี่ยวกับคดีความ แม่ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ว่าลูกจะติดคุกหรือไม่ เพราะมีแนวโน้มไปได้หลายทาง

แม่อยากฝากไปถึงนิ่มว่า ตัวของนิ่มเอง น่าจะรู้ว่าทำอะไรลงไป ทำไมต้องปากแข็ง ข่าวสารออกไปทั่วประเทศ ลูกหายทั้งคนไม่ต้องโทษใครเลย ตัวนิ่มเองรู้ดี แต่ปากแข็ง ไม่ยอมพูด ลูกนอนอยู่กับตัวเอง จะมีคนมาอุ้มไปไม่รู้เชียวหรือ แล้วมาโทษคนในบ้าน พี่ ป้า น้า อา ใครเขาจะเอาลูกตัวเองไป บ้านใกล้เรือนเคียงจะรังเกียจไปด้วย

เรียบเรียงโดย siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ