จากกรณีเฟซบุ๊ก กัน จอมพลัง โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 66 โดยมีข้อความว่า ชาวบ้านทนไม่ไหวส่งหลักฐาน พระ และ เณร วัดดังย่านสามเสน ถอดจีวรแปรงร่างเป็นหญิงเที่ยวผับเป็นกลุ่ม กลุ่มนี้ชอบรวมตัวที่ร้านกาแฟแถววัด และ เปลี่ยนชุดที่ปั้ม ชาวบ้านเอือมมากพิจารณาตัวเองกันนะครับ” และอีกโพสต์ในวันเดียวกัน โดยมีข้อความว่า พระ และ เณร วัดดังย่านสามเสน ถอดจีวรแปรงร่างเป็นหญิงเที่ยวผับเป็นกลุ่ม 5 คนตอนนี้นักข่าวไปดูพบว่าล็อคกุฎิหายเงียบไม่อยู่วัด ชาวบ้านแจ้งว่ากลุ่มนี้มาจากนครพนมอยู่มากว่า 2 ปี เที่ยวดื่มหนักเป็นประจำ ชอบชวนผู้ชายมานอนที่กุฎิแล้วถ่ายภาพวาบหวิวอวด มาคอยดูกันว่าจะกลับมาอยู่ไหมหรือจะย้ายไปวัดไหน

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณศาลาที่พักภายในที่ว่าการอำเภอบางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับนายยศพนธ์ ธัญญากุลโกวิท อายุ 20 ปี (เสื้อขาว) นักศึกษาคณะมนุษย์ศาสตร์ ปี 4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กล่าวว่า เพื่อนของตนเจอโพสต์ต้นทางและแชร์ลิ้งค์มา ตนกดเข้าไปดูเป็นเฟซบุ๊กจากพี่กัน จอมพลัง ตนเลยกดไปอ่าน มันมีรูปและโพสต์ไปในทางเสียหาย ซึ่งมีรูปของเพื่อนตนและไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับพระอีก 2 รูปเลย พระรูปแรกก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 5 คน และพระอีกรูปก็ไม่ได้มาอยู่ในกลุ่มตนด้วย และข่าวที่ออกมามันเสียหายเหมือนสร้างข่าวเพื่อให้เป็นกระแส ตนยืนยันว่าอีก 2 รูปไม่ใช่รูปตน แต่อีกรูปกลุ่ม 5 คนเป็นรูปของพวกตนไปเที่ยวจริงแต่ไม่ใช่ในขณะที่บวชเป็นพระหรือเณร ตอนนั้นตนสึกเรียบร้อยแล้ว กลายเป็นทุกคนไม่ได้ดูรูปเพราะมันเบลอหน้า มีคอมเม้นท์เยอะมากไปในทางลบและประณามตน ตนน้อยใจมากว่าตนไปทำอะไรถึงโดนแบบนี้ ตนสึกมาตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. ปีที่แล้ว ภาพที่เขาเอามาเผยแพร่ที่ตนเที่ยวเป็นภาพวันที่ 23 พ.ย. 65 ซึ่งหลังจากตนสึกแล้วมาเดือนกว่า

ตนยืนยันว่าไม่ได้บวชที่วัดดังย่านสามเสน เพราะตนเป็นคนต่างจังหวัดบวชที่วัดบ้านเกิดที่วัดปางมดแดง จ.พะเยา และลาสิกขาที่นู่นเลย ตนไม่เคยไปเที่ยวแถวสามเสนและไม่รู้จักวัดดังกล่าวด้วย หลังจากที่ข่าวออกไปคนก็มองไม่ดี คนที่รู้จักก็มองตนเสียหาย มองเหมือนตนไปทำความผิด โดนประณามทั้งที่ไม่ใช่รูปตน เอารูปไปรวมมั่วและตีความออกมามั่วไปหมด ไปบอกว่าไปหากลุ่ม 5 คนนี้ที่วัดย่านสามเสนก็ไม่เจอ ล็อคกุฏิ ตนอยู่ห้อง ไม่ได้อยู่วัด จะล็อคกุฏิทำไม ตนยืนยันว่าสึกมาตั้งนานแล้วหลังออกพรรษาประมาณ 2 วัน เพราะต้องไปทำงานกับที่บ้าน คนรู้จักติดต่อมาเพราะเป็นห่วง และเยากทราบเรื่องตามที่เป็นข่าว คนที่สนิทในเฟซบุ๊ก ในอินสตาแกรมก็ทักมาถามด้วยความเป็นห่วง ตนยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเหมือนมาสร้างมลทินให้ตน ถ้าวันนี้ไม่มีสำนักข่าวเข้ามาก็จะไม่ได้ล้างมลทินเลย เหมือนเราเป็นคนกระทำความผิดจริงๆ ตนแจ้งความเฟซบุ๊กของพี่กัน จอมพลัง และเพจโหนกระแส ตอนแรกเห็นแค่ 2 ช่องทางนี้ ตนได้ติดต่อไปแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ คนที่รู้จักก็ช่วยติดต่อนักข่าวให้เพราะข่าวกระจายไปเสียหายหมด บางคอมเม้นท์แรงไปหน่อยถึงบุพการี เช่น ไปขอข้าววัดกินบ้าง เที่ยวผับแล้วต้องกลับไปบิณฑบาตบ้าง ถามว่าตนจะไปบิณฑบาตได้ยังไง แต่งตัวขนาดนี้ เล็บทับทิมขนาดนี้จะไปถือบาตรยังไง ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะตนเป็นฝ่ายเสียหาย พี่ของตนอยู่คนแรกในรูปเลย และเรียนคณะครุศาสตร์ด้วยถ้าเกิดสอบบรรจุไม่ได้มันมีผลกระทบเหมือนกัน บางทีทางมหาวิทยาลัยหรือทางอื่นเขาไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ แต่ข่างมันออกกระจายไปมากสื่อแรง เขาสามารถตัดสิทธิ์ได้เลย และตนได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจเยอะมาก เพิ่งเสียยายไปเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว แม่ตนก็เพิ่งมาตรวจพบเจอมะเร็ง และตนยังมาเจอข่าวแบบนี้อีก คแมเม้นท์แรงๆอีก ตนเสียใจ ตอนแรกปวดหัวมากไม่อยากให้แม่รู้ แต่วันนี้เลือกจะบอกแม่ไปแล้วว่าโดนข่าวนี้แต่มันไม่ใช่ความจริง โดนกล่าวใส่ร้าย

ด้าน น.ส.นริศรา ท่าดี อายุ 21 ปี (เสื้อสีดำ แมสก์สีฟ้า) นักศึกษาคณะครุศาสตร์ ปี 3 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (1 ในผู้เสียหาย ผู้หญิงคนแรกในรูป 5 คน) กล่าวว่า ตนยืนยันว่าเป็นผู้หญิงแท้ 100% มาดูบัตรประชาชนก็ได้ ตนไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ตนเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เพราะอาจารย์แนะนำและตนได้ทุนเรียนจากอาจารย์เลยเลือกเรียนที่นี่ ตนได้รับผลกระทบทางจิตใจและเรื่องเรียน เพราะตนต้องสอบใบประกอบวิชาชีพซึ่งถ้าตนสอบไม่ได้เพราะมีเรื่องเสียๆหายๆ ตนจะไม่ได้สอบ หมดสิทธิ์สอบ อาจจะโดนเด้งออกจากมหาวิทยาลัยด้วย ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดทั้งทางเพจเฟซบุ๊ก และช่องต่างๆที่ออกข่าวไป รวมถึงคอมเม้นท์ทุกคอมเม้นท์ที่ด่าตนถึงพ่อแม่ ตนอยากให้ทุกคนไตร่ตรองและหาความจริงก่อน บางคอมเม้นท์มันแรงไป พ่อแม่ตนไม่ได้มาเกี่ยวอะไรด้วยทำไมต้องมาด่าถึงพ่อแม่ตน ตนไปทำอะไรให้

ด้าน น.ส.ซายากะ จำเนียรทรัพย์ อายุ 21 ปี (เสื้อสีดำ อวบๆ) นักศึกษาคณะครุศาสตร์ ปี 3 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (เพื่อนผู้เสียหาย) กล่าวว่า วันที่เพื่อนไปเที่ยวตนไปด้วยแต่ตนไม่ได้ถ่ายรูปเพราะไปเข้าห้องน้ำ ตนยืนยันว่าวันที่ไปเที่ยวเพื่อนของตนสึกแล้ว ตนรู้จักกันตั้งแต่บวชอยู่จนสึก ตนได้ติดต่อไปทางเฟซบุ๊กและเพจต่างๆ ติดต่อไปบอกความจริง บอกไปแล้วว่าถ้าไม่ติดต่อมาจะดำเนินการตามกฎหมาย เขาก็เงียบกันไปหมด ตนเลยไปดำเนินการ และมีเพจนึงติดต่อมาบอกว่าได้ข้อมูลมาจากสื่อนึงและเงียบไป ตนคิดว่าถ้าทีมงานเพจดังจะห่วยแตกขนาดนี้ก็รับตามสภาพ เพราะเราไม่ได้ทำความผิดแต่คุณทำความผิดกับเรา มีโพสต์นึงบอกว่ามีสามเณรกลุ่มนึงแต่งหญิงออกไปเที่ยว ตอนนั้นยังไม่ได้อะไรรอเขามาไกล่เกลี่ย แต่มีอีกโพสต์มีข้อความว่า สามเณรทั้ง 5 รูป คือในกลุ่มมันมี 5 คน แต่มันมีผู้หญิงด้วย จะมองว่าเพื่อนตนเป็นกระเทยไม่ได้ เพื่อนของตนเป็นผู้หญิง ที่บอกว่าไปหาที่กุฏิคือจะไปหายังไงตนอยู่บ้านที่นี่ และตนบอกแล้วว่าอยากเคลียร์ให้ไปที่รัชดาเพราะเมื่อคืนตนไปที่นั่นแต่ไม่มีใครติดต่อมาเลย อยากจะฝากเจ้าอาวาสว่าสามเณรทั้ง 5 รูปอยู่ที่วัดนั้น ขอข้อมูลด้วยพวกใบสำหรับที่ต้องขอบวช ที่มีชื่อของสามเณร ถ้าไม่มีฟ้องแน่นอน ทางเพจอีก 2 เพจที่ฟ้องไปก็ยืนยันจะดำเนอนการสูงสุด คนที่คอมเม้นท์ก่อนคอมเม้นท์ต้องรู้ว่ารับผลกระทบยังไง เตรียมเงินไว้ให้ดี ไม่รับกระเช้า รับแต่เงินสด สิ่งที่คุณพ่นออกมาจะกลายเป็นพิษหรือยาดีสำหรับใครก็ได้ แต่วันนี้คุณพ่นพิษให้เราเราก็จะพ่นพิษกลับคุณเช่นกัน

ข่าวโดย สาโรจน์ สว่างศรี ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นนทบุรี

เรียบเรียง siamnews