เหยื่อตุ๋นช่วย 1 หมื่นหวังได้ 1 ล้าน บางคนขายรถขายบ้านจนไม่มีที่ซุกหัวนอน

เหยื่อตุ๋นช่วย 1 หมื่นหวังได้ 1 ล้าน บางคนขายรถขายบ้านจนไม่มีที่ซุกหัวนอน

เมื่อเวลา 10.00 น. เช้าวันที่ 15 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ บ้านปางเคาะ ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ เพื่อสอบถามชาวบ้าน ถึงพระอาจารย์ ที่ชักชวนชาวบ้านลงเงิน เพื่อเอาทรัพย์มรดกหมื่นล้าน โดยได้พบกับ นางแก้ว(นามสมมุติ) และ นางคำ(นามสมมุติ) ซึ่งทั้ง 2 คน ก็ร่วมลงทุนในเรื่องนี้ด้วย นางเอฯ ลงไป 1 หมื่น นางบีฯ ลงทุนไป 1 พันบาท พร้อมระบุว่า ในหมู่บ้านใกล้เคียง มีคนลงทุนเกือบหนึ่งร้อยคน ตั้งแต่ 500 บาท ไปถึงหลายหมื่นบาท โดยเฉพาะญาติๆ ของ พระอาจารย์ ที่ต้องขายทรัพย์สิน ทั้งหมดไปลงทุน เพราะเชื่อว่าจะได้เงินตอบแทน จนต้องหาเช้ากินค่ำหากินไปวันๆ ไม่มีทรัพยสินอะไรเหลือ

นางคำฯ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า พระอาจารย์ คนนี้เป็นลูกหลานในหมู่บ้าน บวชตั้งแต่เป็นเณร จนกระทั่งมาสร้างสำนักสงฆ์อยู่เอง โดยดูแลบิดา-มารดา ไปด้วย ต่อมาบิดา เสียชีวิต เหลืองเพียงมารดาที่ต้องเลี้ยงดูภายในสำนักสงฆ์ เป็นพระที่ช่วยเหลือช่วยงานชาวบ้าน ไม่มีประวัติด่างพร้อย เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน เมื่อก่อนจะมีศรัทธา เข้าไปที่สำนักสงฆ์ จำนวนมาก เพราะพระอาจารย์ ดูดวงตามอายุได้แม่น พูดจาไพเราะ มีวาทศิลป์ และตนเองก็นับถือ แต่ต่อมา เมื่อรู้จัก นางนครศรีฯ พระอาจารย์ ก็เริ่มเชื่อ เรื่องมรดกหมื่นล้าน โดยฟังทุกอย่างจาก นางนครศรีฯ เพียงผู้เดียว

จากนั้น พระอาจารย์ ได้เริ่มชักชวนญาติๆ และชาวบ้านร่วมลงทุนช่วยกันหาเงินไปปิดจ่ายค่าต่างๆ เพื่อจะเอามรดกหมื่นล้าน จนกระทั่งญาติๆ เริ่มไม่มีเงินจ่าย และพระอาจารย์ ก็บอกต่อๆ กับลูกศิษย์ลูกหาทุกคนที่เข้าไปหา เพื่อช่วยกันระดมเงินจนกระทั่งมีคนหลงเชื่อจำนวนมาก ในหมู่บ้านนี้ก็รวมๆ น่าจะเกือบ หนึ่งร้อยราย ออมตั้งแต่ 500 บาท ไปถึงหลายหมื่นบาท บางคนออมไป เพื่อหวังจะได้คืน แต่เมื่อไหร่ก็ไม่จบสักที จนตายไปแล้วก็ยังมี รวมๆแล้วน่าจะหลายแสนบาท ซึ่งหากรวมตัวกันได้ ก็จะไปแจ้งความ ตอนนี้ก็เก็บหลักฐานกันอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนั้นยังมีเหยื่อที่ อ.สูงเม่น จ.แพร่ อีก 1 ราย ที่ต้องขายบ้าน ขายรถ ทั้งหมดไม่เหลือ จนกระทั่งต้องมาเช่าบ้านอยู่ ต้องหากินรับจ้างทำสีไปวันๆ โดยผู้สื่อข่าวไปพบกับ นางทอง(นามสมุติ) อายุ 50 ปี เผยว่า ตนองและครอบครัวเป็นลูกศิษย์ พระอาจารย์ จากนั้นพระอาจารย์กชักชวนมาช่วยกันเสียค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อจะเอามรดกหมื่นล้าน ตั้งแต่ ปี 2563 ตนเองและครอบครัว ทยอยส่งให้ โอนให้ บางครั้งจ่ายเป็นเงินสด จนไม่มีเงินเหลือ ต้องขายบ้าน ขายรถ และเอาเงินในออมสินองลูก 2 คน มีกี่บาท เอาให้ไปหมด เพราะหวังว่า หากเรื่องจบ ทุกคน จะได้เงินทุนกลับคืน และ เงินสมนาคุณอีกจำนวนมาก

ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้ชักชวน เพื่อนๆ ญาติๆ อีกหลายคนมาลงทุนด้วย จนเวลาผ่านไปนาน เรื่องก็ไม่จบสักที เพื่อนที่ชักชวนก็ทวงถามหาเงินที่ลงทุนไป จนกลายเป็นทะเลาะกัน กระทั่งตอนนี้ ต้องมาเช่าบ้านอยู่ หากินไปวันๆ ไม่มีเงินส่งให้พระอาจารย์อีกแล้ว นอกจากนี้ พระอาจารย์ก็ยัง โทรมาเพื่อจะเอาเงินไปปิดยอดอยู่อีกบ่อยครั้ง จนตอนนี้ ไม่กล้ารับโทรศัพท์แล้ว เมื่อไหร่ก็บอกจะจบ เมื่อไหร่ก็บอกจะได้ แต่สุดท้ายก็ขอเงินมาปด เรื่องนั้นเรื่องนี้ อยู่เรื่อยๆ ตนเองคิดว่า ไม่ใช่แน่แล้ว จึงหยุดส่ง และจะขอฟังกลุ่มผู้เสียหายส่วนใหญ่ ว่าจะเอาอย่างไร หากรวมตัวได้ก็จะไปแจ้งความ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดนทางไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบถามถึงคดีดังกล่าว ทราบว่า หลังจากได้รับแจ้งแล้ว ทางพระอาจารย์ ได้เดนทางมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว ยืนยันว่า จะบอกให้เจ้าของทรัพย์รับผิดชอบซึ่งจะเดินทางมาในอีกไม่กี่วันนี้ ส่วนหากมีบุคคลอื่นที่ มีหลักฐานว่า ถูกหลอกลวง ขอให้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความที่ทุก สภ.ที่บ้านท่านอยู่ เพื่อจะได้ เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวน-สืบสวน หาตัวผู้กระทำผิดต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ