ประวัติยาย ไร้บ้าน เก็บขยะขาย ต้องนอนตามปั้ม

ประวัติยาย ไร้บ้าน เก็บขยะขาย ต้องนอนตามปั้ม

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่สังคมกำลังให้ความสนใจ หลัง จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โฟสต์เรื่องราวของยายไร้บ้าน เดินตระเวนเก็บของเก่าตามข้างทาง โดยระบุว่า น่าสงสารแกนะ (ยายเทียมใจ ทองหล่อ อายุ 73 ปี) โดนโกงจนตอนนี้แกต้องไร้บ้านหานอนตามปั๊ม ผมเห็นแกเดินทั้งวัน ถ.ภูมิเวท ซอยโลตัส ตลาดปากเกร็ด ใครเจอยายก็แบ่งปันอาหาร+น้ำให้แกบ้างนะครับ

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 น.ส.เทียมใจ ทองหล่อ อายุ 71 ปี อาศัยที่ปั๊มน้ำมัน บริเวณใกล้ห้าแยกปากเกร็ด หมู่ 5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เล่าว่า ตนเองอยู่คนเดียวมีหลานเป็นทหาร แต่ไม่อยากวุ่นวายกับเขา ก่อนหน้านี้ตนเคยทำงานอยู่ที่ กสท. แล้วย้ายมาแคท เทเลคอม และออกมาเมื่อ 1 เม.ย. 47

ซึ่ง น.ส.ณัฐนิช หรือ ดา อายุ 56 ปี เป็นคนที่เอาเงินตนเองไปตั้งแต่ พ.ค. 47 โดยผู้หญิงคนนี้เข้ามาหาตนเองในแบบญาติมิตร เข้ามาตีสนิทเสมือนเป็นลูกหลาน เริ่มต้นด้วยการนำสินค้าขายตรงมาขายให้กับตนเอง อาหารเสริมสุขภาพและขายประกัน อีกครั้งมาเป่าลมหลอกตนเองบอกว่าจะให้ร่วมลงทุนร้านอาหาร และจะให้เงินเดือนเดือนละ 10,000 บาท

ตนเองก็ใจอ่อนเห็นว่าเป็นเสมือนลูกหลานเพราะเคยเข้ามาตีสนิทมากราบมาไหว้ทุกปีประจำช่วงสงกรานต์ กราบไหว้ตนเองตั้งแต่ ปี 2548 และบอกจะเลี้ยงดูตนเองไปจนแก่ชราไปตลอดชีวิต ตนเองเห็นเป็นเหมือนหลาน จึงให้เงินไปจำนวนประมาณ 200,000 บาท ซึ่งตอนนั้น เขาบอกว่าจะขอเงินประมาณ 400,000-500,000 บาท แต่ตอนนี้มีเพียงเท่านี้ก็ให้เพียงเท่านี้ ตอนนั้นตนเองก็กลัวเขาโกงเช่นกัน แต่ก็ให้ไป

ที่ให้ไปนั้นเนื่องจากว่าเขาก็ได้ทำเป็นเอกสารสัญญาเอาไว้ บอกว่าเป็นสัญญากู้ยืมเงินจำนวน 200,000 บาท แต่ไม่ได้ระบุวันคืน เขาได้นำที่ดินมาค้ำประกันในสัญญาด้วย เป็นที่ดินที่ จ.ขอนแก่น 1 ไร่ ระยะหลังก็ไม่ได้ให้เงินอะไรตนเองบอกเพียงแค่ว่าธุรกิจไปได้ไม่ดี ไปไม่รอด ตนเองก็เชื่อเขาและเขาก็มาขอเงินตนเองอีกครั้งหนึ่งซึ่งหลังจากนี้แล้วตนเองก็ไม่ได้ให้เงิน

เมื่อเดือน ต.ค. 2549 เขากลับเข้ามาหาตนเองอีกครั้งนึหนึ่ง จะขอยืมเงินอีก ตนเองบอกว่าไม่มีให้แล้ว และมาบอกว่าธุรกิจของ น.ส.ณัฐนิช เริ่มดีแล้วจะให้เงินเป็นเดือนละ 1,500 บาท ตนเองก็ได้ย้อนดุด่าไป บอกว่าอาเงินไปตั้งหลายปีแต่ก็ไม่ดีขึ้น แล้วกลับมาบอกว่าดีขึ้นแล้ว แล้วจะมาให้เดือนละ 1,500 บาท ตนเองได้เงินอยู่แค่ 2 เดือน แค่ 3,000 บาทเอง แล้วเดือน ธ.ค. 2549 น.ส.ณัฐนิช ให้ตนเองเวนคืนถอนเงินประกันชีวิตที่ตนเองส่งมาตลอดหลายปี ส่งให้ไปทั้งหมด 150,000 บาท แต่เมื่อหักไปแล้วรับเงินไปประมาณ 130,000 กว่าบาท หักค่าภาษีต่าง ๆ เอาเงินตนเองไป ซึ่งเงินค่าประกันชีวิตใบที่เขาเอาไปเป็นเช็ค 215,000 บาท และอีกใบ 130,000 บาท จากเงินต้นส่งทั้งหมด 150,000 และไปเอาเงินกว่าหลายครั้ง และบ้านก็หลอกขายไปหมดแล้ว

และเขาหายไปตั้งแต่ ต.ค. 2561 บ้านตนเองก็ขายไปหมด ไม่มีที่อยู่ไม่มีเงินก็อาศัยอยู่ตามข้างทาง ออกมาหาอาหารตามหัวลำโพง ตามจุดต่าง ๆ ริมถนน ที่เขาแจกอาหาร ซึ่งตนเองกินอยู่ ตามที่เขาให้ 10 -100 บาท ตนเองก็รับเอาไว้ ตนยืนยันว่าจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นนทบุรี และอัยการคุ้มครองสิทธิ เข้ามาอยากจะให้ตนเองไปพักอยู่ในบ้านพักตามที่ทางกระทรวงจัดหาให้นั้นและมีอาหารถึง 3 มื้อ ยืนยันว่าตนเองอยู่แบบนั้นไม่ได้ตนเอง ไม่อยากอยู่ในพื้นที่จำกัด ไม่อยากอยู่ในจุดที่ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ ไม่อยากอยู่ในพื้นที่กักกัน อยากอยู่แบบอิสระ

นอกจากนี้ มีเอกสารรายชื่อบัตรประชาชน-นามสกุลคนเดียวกัน และวันเดือนปีเกิดตรงกัน แต่ที่อยู่บ้านต่างกันอยู่ในเขตพื้นที่ จ.นนทบุรี และเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร น่าแปลกใจคือเลขที่บัตรประชาชนมีถึง 2 ชุดเลขที่ไม่ตรงกัน ซึ่งเมื่อถามคุณยายก็บอกว่า ไม่ได้มีแฝด ซึ่งเอกสารดังกล่าวนั้นถูกออกโดยสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขต จ.นนทบุรี

นายหมี (นามสมมติ) ผู้จัดการปั๊มแก๊ส ระบุว่า ตนเองเห็นว่ายายเทียมใจเร่ร่อนมาพักอาศัยอยู่ภายในปั๊มประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นก็ไม่เคยสร้างความวุ่นวายความเดือดร้อนอะไรให้กับปั๊มแก๊ส เป็นประจำทุกช่วงเย็นช่วงค่ำคุณยายก็จะกลับมาหลับพักผ่อนบริเวณม้านั่ง และในช่วงกลางวันตอนเช้าก็จะเดินออกไปตามถนนหนทางต่าง ๆ เพื่อไปหาข้าวกิน

ซึ่งเมื่อเดินทางกลับมาอยู่ที่ปั๊มก็จะมีบุคคลใจดีร้านค้าให้ข้าวให้อาหารเป็นประจำบ่อยครั้ง ส่วนตัวตนเองนั้นก็เคยให้เงินไปช่วยเหลือสำหรับการกินอยู่ ซึ่งตนเองมองว่าปั๊มแก๊สแห่งนี้เป็นปั๊ม 24 ชั่วโมง มีคนเข้าออกตลอดเวลาและมีรถเข้าออกกว่าหลายคัน พนักงานทุกคนกังวลความปลอดภัยของตัวคุณยาย เนื่องจากไม่ได้มีใครจะมานั่งสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้กับคุณยาย อยากให้คุณยายได้มีพื้นที่พักอาศัยที่ดีกว่านี้ ซึ่งทางปั๊มแก๊สเองนั้นก็ไม่ได้ขับไล่ สามารถให้พักอยู่ได้ตามปกติ ถ้าหากไม่ได้สร้างความเดือดร้อน

ขอบคุณ ภาพและบทสัมภาษณ์จาก ทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์ทีวี 34

เรียบเรียง สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ