มีออกมาเตือนกันอยู่บ่อยๆสำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มาในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ หรือแม้แต่การส่งข้อความมาให้กู้เงิน ส่งลิ้งค์ต่างๆ ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 น.ส.ขวัญตา ขำสุข อายุ 33 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพค้าขาย และทำสวนทุเรียน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเอาเงินไปจำนวน 610,000 บาท โดยมีคนโทรมาบอกเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร แล้วแอดไลน์ขอเป็นเพื่อน พร้อมส่งลิงก์ให้มากรอกข้อมูลเพื่อยกเลิกโครงการคนละครึ่ง และไม่ต้องเสียภาษีย้อนหลัง จึงกรอกข้อความไปตามนั้น

ทีแรกไม่ได้คิดอะไรเพราะตนเสียภาษีร้านค้ามาโดยตลอด เมื่อเข้าไปกรอกชื่อและนามสกุลเสร็จ ปรากฏว่าหน้าจอมือถือโดนล็อก ทำอะไรไม่ได้ ระหว่างนั้นเงินในบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาท่าศาลาก็ ถูกโอนออกไป 10,000 บาท จึงรู้ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแน่ จึงพยายามปลดล็อกหน้าจอแต่ทำไม่ได้ หลังจากนั้นจึงรีบไปที่ธนาคาร ธกส.สาขาปากน้ำกลาย เพื่อไปอายัดเงินในบัญชี

เมื่อไปถึงก็ให้ธนาคารธกส. ตรวจเช็กเงินในบัญชีดู ปรากฏว่าไม่ทันแล้ว เงินถูกโอนออกไปอีก 600,000 บาท จากนั้นข้อมูลในโทรศัพท์มือถือก็ถูกลบทั้งหมด แต่ตนได้แคปหน้าจอไว้ได้ส่วนหนึ่ง ตนทำให้เสียใจมาก เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์กว่าจะได้มา ต้องทำมาหากินไม่รู้กี่เดือนกี่ปีกว่าจะมีเงินก้อนนี้ จึงได้ขอให้ธนาคารช่วยตรวจสอบธนาคารปลายทาง แต่ก็ไม่เป็นผล ต่อมาวันที่ 16 พฤศจิกายน 65 ตนได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับร.ต.อ.จเร พูลแก้ว รอง สว.(สอบสวน)สภ.ท่าศาลา เพราะอยากให้เงินคืนมาบ้าง และขอให้เรื่องเป็นอุทาหรณ์แก่พี่น้องประชาชนที่ทำมาหากิน แต่มาถูกแก๊งนี้หลอกดูดเงินจนหมดเนื้อหมดตัว และในวันนี้ทางตำรวจได้ให้ตนเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม

ด้านพ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.ท่าศาลา กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้จากพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งได้สั่งการให้เร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แม้การติดตามจะยากแต่ตำรวจจะพยายามดำเนินการเพื่อเอาผิดกับแก๊งนี้ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาโดยตลอด ซึ่งมักจะมาในรูปแบบต่าง ๆ จนชาวบ้านตามไม่ทัน กว่าจะรู้ก็ถูกดูดเงินไปจากธนาคารไปหลายรายแล้ว

ขอบคุณ ข้อมูลจากข่าวสด