เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 เจ้าหน้าที่กู้ภัยอุทัยธานี กู้ภัยพร้อมองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี กู้ภัยอำเภอตาคลี ชุดประดาน้ำ โดยสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ได้ลงกันช่วยงมหาผู้สูญหายคือนายมนัส โห้ธัญกร อายุ 75 ปี บ้านเลขที่ 2 หมู่ 8 บ้านอีเติ่ง ต.เนินแจ้ง อ.เมือง จ.อุทัยธานี โดยผู้สูญหายได้พายเรือลงไปหาที่ดักตะข่ายในแม่น้ำอีเติ่ง หลังจากนั้นได้แวะบ้านเพื่อนนั่งพูดคุย อยู่อีกฝัง หลังจากนั้นได้พายเรือกลับบ้าน โดยมีเพื่อนบ้านยืนมองบนตลิ่ง จนมองไม่เห็นเนื่องจากต้นก่อไผ่อีกฝังบังสายตา

หลังจากนั้นผู้สูญหายได้หายไป โดยได้ปล่อยเรือพลาสติกลอยน้ำไปกว่า 1 กิโลเมตร ที่ใช้พาย จนนางกัลยา วงศา อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้เสียชีวิต ได้กลับมาบ้าน และได้มาที่ท่าน้ำพบว่าเรือที่นายมนัส พายไปได้หายไปจากท่าเรือ หลังจากนั้นได้มีเพื่อนบ้านมาบอกว่าพบเรือของนายมนัสลอยมา นางกัลยา จึงได้รีบบอกกลับพี่ น้องและญาติ ๆ ว่านายมนัสหายไป ทุกคนมาถึง ก็ลงความเห็นว่านายมนัส ต้องจมน้ำเสียชีวิตแน่นอน จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งกู้ภัยอุทัยธานี พร้อมชุดประดาน้ำมาช่วยงม เนื่องจากระดับน้ำลึกถึง 6 เมตร

โดยเมื่อช่วงสายวันนี้ นางกัลยา ลูกสาวได้นำหมอนหนุนหัว ของผู้เสียชีวิตพร้อมจุดธูป ไปลอยกลางกลางแม่น้ำอีเติ่ง เพื่อให้นายมนัส พ่อลอยขึ้นมาจากน้ำ หลังจากนั้นก็ไปจุดธูปบอกเจ้าพ่อบุญคง ซึ่งอยู่ใต้ต้นสำโรงขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านในระแวกนั้นนับถือ พร้อมกับให้นางส้มเช้า ภรรยาของนายมนัส ผู้ศูนย์หาย จุดธูปบอกกลับเจดีย์ ที่บรรจุกระดูกบรรพบุรุษ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหน้าบ้าน เพื่อให้นายมนัส ลอยขึ้นมา พร้อมทั่ง นางกัลยา พร้อมญาติ ๆ ได้ลงเรือพ่ายเรือ ตะโกนเรียกผู้เสียชีวิตให้ขึ้นมาจากน้ำ

หลังจากนั้นเวลา 15.30 น.เจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดประดาน้ำ ได้แจ้งมาทางวิทยุบนบก ว่าพบร่างของนายมนัส แล้ว ในสภาพศพสวมเสื้อ ลายสก็อต สีแดงแขนยาว กางขาสั้นสีดำ โดยได้ลอยไปติดกลับก่อไผ่ชายฝัง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมนางมนัส และ ญาติ ๆ ได้ช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำขึ้นเรือ และมาที่ท่าน้ำหน้าบ้านของผู้ตาย หลังจากนั้นได้มายังโต๊ะหน้าบ้านเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์เวรมาตรวจสอบ ด้วยความเศร้าโศกของลูก ๆ และญาติพี่น้อง ก่อนที่จะนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ข่าวโดย ภาวิณี ศรีอนันต์ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด อุทัยธานี