แม่ร่ำไห้แทบขาดใจ นั่งอยู่กับลูกๆ หน้าบ้าน ถูกกระบะพุ่งชน คว้าทันแค่คนเดียว

แม่ร่ำไห้แทบขาดใจ นั่งอยู่กับลูกๆ หน้าบ้าน ถูกกระบะพุ่งชน คว้าทันแค่คนเดียว

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสลดรถยนต์พุ่งชนร้านค้าข้างทาง มีผู้ได้รับบาดและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณบ้านไทยโยง ต.กระสัง อ.เมือง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพอบต.บ้านบัว ร.ต.ท.อิงครัต สุขตาม รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองบุรีรัมย์ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ

พบรถกระบะ นิสสัน สีเขียว ทะเบียน บฉ1820 บุรีรัมย์ ลักษณะเป็นรถนายฮ้อยบรรทุกวัวควาย สภาพพุ่งเข้าไปในร้านขายของริมถนน ด้านหน้าพังเสียหาย แต่ไม่พบคนขับอยู่ในรถ ส่วนสภาพที่เกิดเหตุมีทั้งโต๊ะหินอ่อนขนาดใหญ่แตกหัก ข้าวของภายในร้านเสียหายกระจัดกระจายเกือบทั้งหมด และยังพบรอยเลือดอยู่ในจุดเกิดเหตุด้วย

ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ด.ช.ธีรพล หรือน้องแสตมป์ วัยเพียง 4 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะถูกแผ่นโต๊ะหินอ่อนกระแทกอย่างแรงและถูกทับอีกที พ่อเด็กได้รีบนำส่งรพ.บุรีรัมย์ แต่เด็กได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ รถกระบะนายฮ้อย ได้ขับไปชนกับรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ ทะเบียน ยก6483 นครราชสีมา ของนายอนันต์ เครือทอง ก่อนจะเสียหลักพุ่งชนเข้าไปในร้านข้างทาง ก่อนที่คนขับกระบะนายฮ้อยได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนี ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายอนันต์ ให้การว่า หลังกลับจากส่งลูกไปเรียนในตัวเมืองก็กำลังขับรถกลับ แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุ รถกระบะที่ขับสวนก็ข้ามเลนมาชนเต็มแรงจนรถหมุนกลางถนนเกือบจะไปชนเสาไฟฟ้าข้างทาง เคราะห์ดีที่ประคองเอาไว้ได้ จากนั้นรถคันดังกล่าวเสียหลักไปพุ่งชนร้านค้าดังกล่าว

จากการสอบถามน.ส.พัชรวรรณ เพชรเลิศ อายุ 29 ปี ผู้เป็นแม่ เผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังถักเปียให้น้องสตังค์ ลูกสาววัย 5 ขวบ และป้อนข้าวน้องแสตมป์ ลูกชายวัย 4 ขวบ อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน ตนได้ยินเสียงดังจึงหันไปเห็นรถกระบะพุ่งเข้ามาหา ตนทำได้แค่ดึงลูกสาวออกไป แต่ลูกชายที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ถูกแผ่นหินอ่อนกระแทกจากแรงรถที่ชนเข้ามาอย่างแรง ก่อนจะทับซ้ำอีกที

ตนพยายามใช้กำลังทั้งหมดที่มียกแผ่นหินอ่อนออก แล้วอุ้มลูกชายที่หมดสติส่งให้สามีรีบพาส่งโรงพยาบาล หวังว่าลูกแค่สาหัสแต่พอไปถึงห้องฉุกเฉินหมอบอกว่าช่วยเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตลูกชายไว้ได้ ตอนนั้นแทบช็อกทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้เพราะไม่คิดว่าจะเสียลูกไป ส่วนคนที่ชนดูจากสภาพคล้ายกับคนเมา หลังเกิดเหตุก็หลบหนีไปเลยไม่มีแต่คำขอโทษหรือช่วยเหลืออะไรเลย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ