อิลสลิก ฝากถึง เจ้าของร้าน ปมเล่นธรรมดา - ทิ้งแฟนคลับ

อิลสลิก ฝากถึง เจ้าของร้าน ปมเล่นธรรมดา - ทิ้งแฟนคลับ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความถึงการจ้างนักร้องชื่อดัง ที่เรียกตัวเองว่านักกวีมาเล่นที่ร้าน แต่กลับเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เป็นข้อความร่ายยาวพอสรุปได้ว่า จริง ๆ ว่าจะไม่พูดแล้วนะแต่คุณเริ่มก่อน

คอนเสิร์ตครั้งนี้เซ็นสัญญาก่อนที่คุณ จะมีประเด็นกับนักร้องท่านอื่น ส่วนเรื่องราคาตั๋วทำไมต้องราคานี้ คุณลืมอะไรป่าวว่าค่าตัวคุณ 450,000 บาท บวกกับค่าต่าง ๆ นานาที่ร้านต้องจ่าย สรุปค่าโต๊ะ+ค่าตั๋วทางร้านขาย ได้เป็นเงิน 200,000 - 270,000 บาท ขาดทุนมหาศาล คุณยังมาปากดีอีก

การแสดงของคุณ 40-45 นาที กับการแสดงที่ธรรมดามาก ๆ ทำตัวยังกับเป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่สนใจคนอื่น ทางร้านตกลงกับคนดีลงานว่า หลังจากเล่นเสร็จคุณต้องมาแจกลายเซ็น

แต่คุณให้แฟนคลับคุณนั่งรอคุณนับร้อย ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที แต่คุณกลับโดยไม่ชี้แจงอะไรทั้งสิ้น ผมเห็นนิสัยกับตาแล้วครับ หนักกว่าที่เค้าพูดกันอีก ผมขาดทุนผมไม่ว่าเรื่องเล็ก แต่สิ่งที่คุณทำกับ FC ของคุณ คือ สิ่งที่รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง

ต่อมา ลิลลี่ ตัณฑ์เอกชน ทีมงานของ ทิฆัมพร เวชไทยสงค์ หรือที่รู้จักกันในนาม อิลสลิก ได้เข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าว เป็นข้อความชี้แจงว่า ทำไมอยู่ดี ๆ มาต่อว่ากันหรอ งงมาก ตอนอยู่ที่ร้าน พูดคุยกันปกติ

และก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แล้วเรื่องที่พิมพ์มาคืออะไร แค่มีแฟนคลับบางคนมาน้อยใจที่ตัวเองไม่มีเงินมาดู เราไปอ่านเจอแล้วพิมพ์ถึงแฟนคลับ อย่ากังวลเรื่องมีเงินซื้อบัตรมั้ย ราคาเท่าไหร่ก็เหมือนกัน

ส่วนเรื่องแจกลายเซ็น ทุกงานที่เรารับ ไม่มีการยืนยันว่า จะแจกลายเซ็นได้ชัวร์ หรือแจกได้กี่นาที ตอนเช็กอินไม่ได้แจกเลย เพราะจำนวนคนเยอะมาก จะใช้วิธีเซ็นฝากไป เซ็นเป็นร้อย ๆ ชิ้น แค่คนไม่เห็น

และถ้าบอกว่ามีการสัญญาว่าจะตัองไปแจก น่าจะมีการผิดพลาดอะไรรึป่าว เราคุยงานอยู่ร้านจนถึงตี 2 ร้านปิด พี่อิลมองหาไม่เจอแฟนคลับสักคนเลยกลับ ทำไมไม่เดินเข้าไปแจ้งพี่อิล กว่าจะเล่นเสร็จ ถ้าไม่อยากแจก จะนั่งรอยันร้านปิดทำไม

จากนั้น อิลสลิก ก็ได้ทำการโพสต์เฟซบุ๊ก ฝากไปถึงเรื่องร้านดังกล่าวระบุว่า ราคาค่าตั๋วไม่ว่าจะมากหรือน้อย ไม่ได้วัดคุณค่าของคนฟัง ไม่ได้แปลว่าใครรักศิลปินมากกว่าใคร คนที่มีเงินน้อยจองตั๋วได้แค่ด้านหลัง ก็ไม่ได้แปลว่าไม่รักศิลปิน คนที่มีเงินมากอยู่หน้าสุด ก็ไม่ได้แปลว่ารู้จักหรือร้องเพลงได้ทุกเพลง

เงินไม่ได้วัดคุณค่าความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเงินมากหรือน้อยก็เท่าเทียมกัน ไม่ว่าแฟนเพลงคนไหนจะซื้อตั๋วกี่บาท ผมอยากให้ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ใส่ใจไม่ต่างกันไม่ว่าคนพวกนั้นจะยืนที่ไหน ทุกคนคือคนฟังของผมครับ

ล่าสุด ดูเหมือนเรื่องดังกล่าวจะจบลงแล้ว เมื่อเจ้าของร้านเจ้าของต้นเรื่อง ได้โพสต์ชี้แจงถึงเรื่องทั้งหมดว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับทางศิลปินเอง แล้วทำให้เข้าใจตรงกันกับปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากการสื่อสารที่ผิดพลาด ซึ่งตัวเจ้าของร้านไม่มีโอกาสคุยกับศิลปิน และตัวศิลปินเองก็เข้าใจว่าท่านอื่นเป็นเจ้าของร้าน จนถึงเวลาร้านปิดยังเดินไปไม่เจอใครที่รถ ก็เข้าใจผิดว่าเพราะไม่มีคนมารอ

เรียบเรียง siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ