จั๊กจั่น เครียดหนัก ต้องพบหมอ รับไม่ได้ถูกกล่าวหาเป็นภรรยาน้อย

จั๊กจั่น เครียดหนัก ต้องพบหมอ รับไม่ได้ถูกกล่าวหาเป็นภรรยาน้อย

หลังจากตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตคู่ ทำหลายคนลุ้นว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดีมีเบบี๋ด้วยกันสักที สำหรับ นักแสดงสาว จั๊กจั่น อคัมย์สิริ กับ เค วัฒนา แฟนหนุ่มนักธุรกิจ แถมล่าสุดสาวจั๊กจั่นก็กลับมารับงานละครเต็มตัวแล้วซะด้วย โดยเจ้าตัวเผยว่า

เรื่องมีลูกที่ผ่านมาเราพยายามแล้ว เพราะมีคนบอกว่าเราเกิดปีจอมีลูกปีเถาะจะดี ก็พยายามแล้ว แต่มันไม่สำเร็จ ก็รู้สึกว่าเครียดเกินไปหรือเปล่า คุยกับแฟนว่า ถ้าเกิดยังไม่มา งั้นเราปล่อยธรรมชาติดีกว่า ถึงค่อยรีแล็กซ์ขึ้น แต่ว่าเราได้เข้าไปฝากไข่ไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เรากดดันตัวเองมากเกินไป ส่วนที่ว่ามีแบบติดแล้วหลุดไปมั้ย มันยังไม่ติดไง รู้สึกว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า เพราะว่าสองปีที่ผ่านมาจั่นมีปัญหาเรื่องหัวเข่า ขึ้นลงบันไดไม่ปกติ แต่ตอนนี้โอเคแล้ว เลยรู้สึกว่ากลับมาทำงานได้ มีไปตรวจมาแล้ว สุขภาพแข็งแรงดี แต่อาจจะเป็นเครียดไม่รู้ตัวค่ะ

เรื่องที่เกิดภาวะเครียดไม่รู้ตัว ถามว่าเคยไปปรึกษาหมอมั้ย ยอมรับว่าต้องเข้าไปหาจิตแพทย์ เพราะรู้สึกว่าทำไมเราต้องมาเจอเรื่องที่เราไม่ควรที่จะต้องเจอ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องจริง ทำไมเราต้องมาตอบคำถาม แล้วทำไมเราต้องออกรายการ คนอย่างเราต้องไปออกรายการเหรอ เราซึ่งทำอาชีพสุจริต มันค่อนข้างกดดันหลายอย่างมันเคยมีความรู้สึกที่ว่าเราไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว ทำไมเราต้องมาตอบคำถามในเรื่องที่มันไม่จริง ไม่อยากทำงานตรงนี้อีกแล้ว มันเป็นถึงขั้นนั้นเลย อันนั้นคือเป็นตอนช่วงที่มีข่าว เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ทำไมเราจะต้องมาตอบ

ช่วงนั้นไปพบหมอทุกเดือนเลยช่วงนั้น ที่ตัดสินใจไปหาคุณหมอ เพราะว่านอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าจะคิดว่า ทำไมๆ อยู่ตลอด ทำไมต้องมาตอบคำถามอย่างนี้ พี่นักข่าวที่สนิทกันโทร.ไปหา จั่นไม่รับเพราะว่าไม่อยากพูดซ้ำๆ ก็กลายเป็นเสียมารยาท เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยากเป็นคนแบบนี้ พอคิดได้ว่าปล่อยให้มันเป็นเรื่องของคดีความ เรื่องของชั้นศาล เรื่องที่เกิดขึ้นมันเครียด ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะแต่งงาน กำลังจะใช้ชีวิตมีความสุข แต่กลับมีข่าวว่าเป็นเมียน้อยคนอื่นทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องจริง แล้วสังคมก็เชื่อด้วย สังคมส่วนใหญ่เชื่อในโลกออนไลน์ก็วิพากษ์กันไปต่างๆ นานา เรารู้สึกว่าทำไมต้องพูดถึงเราแบบนี้ ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องจริง แล้วก็โดนหลอกกันทั้งวงการอย่างที่รู้กันอยู่

จั่นไม่ได้จะออกจากวงการ ยังอยากทำงานอยู่ แต่แค่อยากพักไม่อยากเจอใคร ไม่อยากไปไหน เพราะไม่อยากตอบคำถามในเรื่องที่มันไม่จริง ประกอบกับเป็นช่วงโควิดและเรื่องหัวเข่าด้วย ก็เลยได้พักไปจนตอนนี้เข่ากลับมาปกติแล้ว สุขภาพใจก็โอเค ขั้นตอนการรักษาคุณหมอให้เราพูดว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง เราเจออะไร ทำไมเราถึงได้รู้สึกอย่างนั้น คุณหมอก็ช่วยปรับความคิดเรา แรกๆ ก็มีทานยา เหมือนยาคลายเครียด ทำให้เราไม่ต้องคิดเยอะ พอจะมีน้องก็หยุดยา แต่ยังไม่ถึงขั้นซึมเศร้าแค่วิตกกังวล

ถามว่าจุดไหนที่ทำให้รู้สึกว่าฉันต้องไปหาจิตแพทย์แล้ว เราไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดมันเป็นเรื่องไม่จริง หรือว่ามีมูลความจริง จั่นจะไม่ว่าเลย แต่นี่ไม่ใช่เรื่องจริง แล้วเราต้องมาตอบ ผู้หญิงเราถูกว่าไปเป็นเมียน้อยใคร มันเป็นเรื่องใหญ่นะ ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ เวลามันจะช่วยเยียวยา เพราะเราตัดสินใจได้แล้วว่าปล่อยผ่าน ก็ให้ปล่อยเรื่องราวเป็นในชั้นศาลให้ทนายนิด้าจัดการ คดีมีความคืบหน้าเรื่อยๆ ค่ะ สงสัยอะไร ถามพี่ทนายนิด้าได้เลย ตัวจั่นไม่อยากพูดอะไรถึงเรื่องนี้ เพราะไม่รู้ว่าถ้าพูดไปจะส่งผลอะไรในชั้นศาล

ส่วนเรื่องมีน้องตอนนี้ก็ต้องถ่ายละครก่อน ทำตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน กระบวนการผลิตช่วงนี้ก็ต้องชะลอไว้ก่อน ซึ่งสามีก็โอเคค่ะ เรื่องของการมีน้องคือต้องคลอดปีหน้าค่ะ ภายในเดือนมีนาคมถึงจะดี แต่ตอนนี้ไม่ได้ซีเรียสแล้ว ก่อนหน้านี่อาจจะซีเรียสเรารู้สึกว่าอยากที่จะรีบมี ตอนนี้รู้สึกว่าถ้าเกิดเขาอยากจะมา ก็มา ตอนนี้ไม่ดูฤกษ์แล้ว ส่วนที่ว่าสามีไม่ค่อยอยากให้กลับมาถ่ายละคร ด้วยบทของจั่นที่ได้รับนั้นค่อนข้างที่จะเครียด กลัวว่าจะส่งผลต่อสุขภาพ ตอนนี้บทใสๆ ไม่มีใครติดต่อมาเลย บทใสๆ ติดต่อมาได้นะคะ พิธีกรก็รับได้ค่ะ ละครตลกก็ทำได้เคยเล่นมาก่อน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ