น้องชาย เปิดใจ แฉนิสัยพี่สาว หลังแอบขายบ้านและที่ได้เกือบ 5 ล้านไล่แม่หนีไร้ที่ซุกหัวนอน

น้องชาย เปิดใจ แฉนิสัยพี่สาว หลังแอบขายบ้านและที่ได้เกือบ 5 ล้านไล่แม่หนีไร้ที่ซุกหัวนอน

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานีพร้อมด้วยนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย เดินทางไปพบกับนางหอมเมือง แพททริก อายุ 53 ปี ชาวอ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี หลังร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนถูกลูกสาวแอบขายบ้านที่อ.ศรีธาตุ จนต้องพาลูกชายลูกสะใภ้หนีมาอยู่ขอที่ซุกหัวนอนกับพ่อน้าที่บ้านม่วง ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี สาเหตุเนื่องจากถูกลูกสาวคนโตที่ชื่อ แหม่ม อายุ 35 ปีได้สามีชาวต่างชาติแอบขายบ้านหรูทรงสเปนเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นพร้อมที่ดินประมาณ 2 ไร่ในชุมชนบ้านศรีสง่าเมือง ในตัวอำเภอศรีธาตุ ได้เงินประมาณ 5 ล้านบาท โดยไม่บอกแม่แม้แต่คำเดียว จนต้องหนีมาหาที่ซุกหัวนอน หัวใจช่างแสนเจ็บปวดลูกสาวที่เบ่งออกมาจากท้องทำกับแม่ได้ถึงเพียงนี้

นางหอมเมือง เปิดเผยว่า หากพูดเรื่องราวย้อนไปหลายสิบปี ตนเองเคยมีสามีคนไทยแต่ก็ต้องเลิกรากันไป จากนั้นต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงลูก 3 คน เป็นลูกสาว 2 คนและลูกชายอีก 1 คน ต่อมาได้แต่งงานสามีชาวต่างชาติชาวเยอรมัน ชีวิตก็เริ่มดีขึ้น ตนเองจึงเก็บหอมรอมริบเก็บเงินมาซื้อที่ดินและสร้างบ้านในตัวอำเภอศรีธาตุ โดยที่ดินและบ้านเป็นชื่อของตนเองและซื้อมาจากน้ำพักน้ำแรง ต่อมาสามีป่วยจนจากไปและมีลูกๆ เอาหลานมาให้เลี้ยง เริ่มลำบากจึงตัดสินใจเอาบ้านและที่ดินที่ซื้อด้วยเงินตนเองไปขายฝากกับนายทุนในจ.ขอนแก่นในราคา 400,000 บาท เราก็ส่งดอกเบี้ยและต้นรายปี เป็นไงไม่รู้ต่อมามีเจ้าหน้าที่ฯ ของรัฐบอกว่าให้ไปไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ พอไปคุยนายทุนเขาจะเอาเงินที่จะไถ่ที่ดินคืนจำนวน 1,500,000 บาท และจ่ายมาแล้วบางส่วนเบ็ดเสร็จเหลือ 700,000 บาท

พอตกกระไดพลอยโจนจึงหาเรื่องกู้เงินกับธนาคารฯ แต่การกู้คงไม่ทันนัดจ่ายนายทุนแน่ แต่มานึกขึ้นได้ว่าลูกสาวคนโตคือนางแหม่มมีสามีชาวญี่ปุ่น จึงไปปรึกษาบอกว่า นี่ลูกแม่อยากไปไถ่ที่ดินและบ้านคืน จำนวน 700,000 บาท ลูกสาวก็รับปากเดี๋ยวจัดการให้ เราในฐานะแม่กลัวเขามีปัญหากับสามี แม่ก็ขอให้ทำสัญญาว่าแม่ยืมเงินไปเลย 700,000 บาท พอเขาจ่ายให้แล้วได้ไถ่บ้านและที่ดินบ้านคืน พอเรากู้เงินได้จากธนาคาร แม่ก็เอาเงิน 700,000 ไปคืนให้ลูกสาวทันที จากนั้น เขาก็ฉีกสัญญากู้ยืมทิ้งบอกว่า ไม่ต้องเป็นหนี้ใคร ไม่ต้องยืมใครอีก ให้อยู่เฉยๆ เราก็ดีใจก็เลยปล่อยให้ลูกสาวมีชื่อถือครองกรรมสิทธิ์บ้านและที่ดินเลย อยู่ต่อมาเรื่อยๆ ลูกสาวคนนี้เริ่มเปลี่ยน วีนใส่แม่และน้องชายของเขา ลูกสาวเขาว่าแม่หอบเงินมาให้ผัวใหม่ แต่แฟนใหม่คนนี้อยู่มาเป็นสิบๆ ปีแล้วไม่เคยมีปัญหา ต่อมาลูกสาวจัดงานแต่งงานใหญ่โตที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นเงิน 1 ล้านบาทและทองหนัก 30 บาท เราก็ดีใจอาจจะได้เงินสินสอดของลูกเขยบ้าง แต่เขาไม่ให้ซักบาทแต่งงานเสร็จเขาก็หอบเงินหนีเลย แต่ไม่เป็นไรก็ถือว่าลูก หลังจากลูกสาวเปลี่ยนไป ตนเองก็ไปๆ มาๆ บ้านที่อ.ศรีธาตุ และที่อ.หนองหาน

ล่าสุดได้ยินข่าวว่า ลูกสาวคนนี้ขายที่ดินและบ้านแล้ว โดยขายที่ดิน 2.5 ล้านบาท และบ้าน 2.5 ล้านรวมเป็น 5 ล้านบาทเมื่อ 4-5 วันที่แล้ว ตกใจมาก และบอกมาว่าให้แม่และน้องชายออกจากบ้านหลังนั้นด้วย ทำไมลูกทำกับแม่อย่างนี้ ทั้งๆ ที่เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะและทรัพย์สินตรงนี้แม่เป็นคนหาเงินซื้อเอาไว้ ใจจริงอยากแบ่งให้ลูก 3 คนเท่าๆ กัน แต่ลูกสาวคนนี้ทำไมอยากได้ทรัพย์สมบัติอะไรนักหนา เขาประกาศตัดขาดความเป็นแม่เป็นลูกและไม่ต้อนรับเรา ทำไมไม่คิดถึงบุญคุณแม่บ้างมีหลายเรื่องมากที่ลูกสาวคนนี้ทำกับแม่เหมือนไม่ใช่คนและเห็นว่าเป็นแม่ อยากคุยกับลูกสาวมาพูดคุยกับแม่บ้าง

ขณะที่นายดุลนิวัฒน์ ดุษฏีธรรมโม อายุ 32 ปี หรือ แมน น้องชาย เปิดเผยว่า พี่สาวคนนี้เห็นแก่ตัวมาก ขนาดเป็นพี่น้องคลานกันมาจากท้องแม่ บ้านหลังนี้เป็นแม่ซื้อเองมา รู้สึกไม่สบายใจที่พี่สาวแอบขายบ้านแล้วไล่แม่ออกจากบ้าน ทำไมไม่คิดถึงบุญคุณแม่บ้าง อาจจะเป็นเพราะแม่ไว้ใจพี่สาวคนนี้มาก ผมรู้นิสัยและสันดานพี่สาวคนนี้ดี เขาเคยส่งข้อความมาบอกให้ผมและแม่ไปย้ายออก รวมถึงน้ากล้วยภรรยาและลูกน้อย ที่มีพี่แท็กซี่ใจดีอาสามาส่งถึงบ้านเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็ถูกน.ส.แหม่มไปไล่ออกด้วยตอนนี้น้ากล้วยก็ไม่มีที่อยู่ต้องไปอยู่บ้านตาและยายแล้ว

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ