สามีครูพี่พรมาเก็บอัฐิภรรยา และลูกชายน้องซีวิค พร้อมพูดประโยคบอกลาสุดท้าย

สามีครูพี่พรมาเก็บอัฐิภรรยา และลูกชายน้องซีวิค พร้อมพูดประโยคบอกลาสุดท้าย

นายเสกสรรค์ ได้นำร่างภรรยาขึ้นรถมูลนิธิส่งเสริมธรรม จ.อุดรธานี มาที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อผ่าเอาทารกในครรภ์ออก เพราะอยากเห็นหน้าลูกชาย และเป็นความเชื่อของชาวบ้านว่าตายทั้งกลมจะเฮี้ยน

เมื่อเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้นำร่าง น.ส.สุภาพร ซึ่งตั้งครรภ์ 8 เดือน เข้าไปผ่าทารกออก โดยนายเสกสรรและญาตินั่งกอดรูปภรรยารออยู่หน้าห้อง โดยได้ชงนมใส่ขวดนม และเครื่องใช้สำหรับเด็กมาด้วย

เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ออกมาแจ้งว่าผ่านำทารกเพศชายออกมาแล้ว และสวมชุดทีมฟุตบอลลิเวอร์พูล พร้อมหมวก ที่พ่อซื้อเตรียมมาให้ เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปลูกชายมาให้ดู ซึ่งนายเสกสรรค์ถึงกับยิ้มและเรียกลูกชายว่า น้องซีวิค

นายเสกสรรค์ เล่าว่า สาเหตุที่นำภรรยามาผ่าท้องนำลูกออกมา เพราะเป็นประเพณีและความเชื่อของชาวบ้าน หากเสียชีวิตขณะตั้งครรภ์ ก่อนจะฌาปนกิจต้องผ่าเอาลูกออกก่อน จึงอยากทำให้ถูกต้องและสมบูรณ์ ส่วนตนอยากเห็นหน้าลูก และอยากให้ลูกอยู่ในอ้อมกอดของแม่เป็นครั้งสุดท้าย อยากให้ลูกออกมาลืมตาดูโลก

ต่อมาเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่อัญเชิญเพลิงพระราชทานดอกไม้จันทร์พระราชทาน นำขบวนเคลื่อนโลงศพผู้เสียชีวิตมา เริ่มจากโลงแรกคือ ร่างของครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ท้อง 8 เดือน ตามด้วยร่างของเด็กๆ โดยมีครอบครัวถือรูปเดินนำโลง มา ซึ่งเหตุผลที่นำครูมาเป็นร่างแรก เนื่องจากต้องการให้ได้นำน้องๆต่อแถวกันขึ้นสู่สวรรค์ จากนั้นก็นำมาตั้งไว้ที่เตาเผาเชิงตะกอนเรียงกันทั้ง 19 ร่าง ก่อนที่จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมหน้าไฟ และสวดมาติกา

ทั้งนี้ทางครอบครัวของเด็กๆ ได้นำของเล่นของน้องมาเผารวมกันไปทั้งหมดด้วย ซึ่งก่อนที่จะเริ่มพิธีสงฆ์ ก็ได้ให้เวลากับครอบครัวในการร่ำลาส่งท้ายกับผู้เสียชีวิต ทางสามีของครูได้จูบและพูดสื่อถึงอดีตคนรักด้วย

ล่าสุดสามีครูพี่พรมาเก็บอัฐิภรรยาและลูกชายน้องซีวิค พร้อมกล่าวว่า อยู่กับแม่อย่าดื้อ เป็นเพื่อนเล่นกับพี่ๆด้วยนะลูก

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ