พ่อผัวเดือด ฉะสาวจับลูกทำผัว ลั่น หนูนอนกับลูกชายพ่อไปแล้ว

พ่อผัวเดือด ฉะสาวจับลูกทำผัว ลั่น หนูนอนกับลูกชายพ่อไปแล้ว

จากกรณีสาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ได้ร้องสื่อมวลชนว่า ถูกชายหนุ่มและครอบครัวฝ่ายชายเทงานหมั้น มีการทำหนังสือสัญญากำหนดการสู่ขอเรียกสินสอด 50,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท กำหนดแต่งงานกันเดือน ก.พ. ปี 66 สุดท้ายชายหนุ่มหนีหายติดต่อไม่ได้

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 65 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ อบต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังจากนัดหมายพูดคุยกับ น.ส.นิ้ง (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ให้ข้อมูลว่า รู้จักกับนายโหน่งในวงสังสรรค์กลุ่มเพื่อนเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 65 ตนเองเพิ่งอกหักจากแฟนหนุ่มก่อนพูดคุยและถูกใจกันกับนายโหน่ง จึงย้ายเข้าบ้านฝ่ายชายแล้วตกลงปลงใจจะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน พูดคุยถึงขั้นจะแต่งงานกัน เขาบอกเองว่าจะให้พ่อและแม่มาสู่ขอทันทีและให้ลาออกจากงานมาอยู่ช่วยงานที่บ้าน ตนจึงลาออกจากงานในห้างแห่งหนึ่งใน อ.บ้านดุง ไปอยู่กับครอบครัวเขาเลย ทำทุกอย่างล้างถ้วยล้างชามช่วยขายของที่ร้าน

ต่อมาวันที่ 1 ต.ค. 65 พ่อฝ่ายชายญาติและเพื่อนไปที่บ้านตน เพื่อตกลงกันเรื่องหมั้นหมายและกำหนดแต่งงานในเดือน ก.พ. ปีหน้า เงินสินสอด 5 หมื่นบาท กับทอง 1 บาท ทำสัญญากันอย่างดี ตกลงว่าจะจ่ายวันที่หมั้นหมาย 1 หมื่นบาท แต่พ่อฝ่ายชายเอาเงินวางไว้แค่ 2 พันบาท ทำให้ตกลงกันไม่ได้ จากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายกันไป รู้สึกเสียใจและเสียหน้าอย่างมากที่ถูกกระทำเช่นนี้

แม่ของน.ส.นิ้ง เปิดเผยว่า ครอบครัวเราดีใจที่ลูกสาวจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาซะที เคยมีสามีมาแล้วแต่ก็เลิกรากันไป ดีใจเพราะวันที่ 1 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใหญ่ฝั่งผู้ชายมาที่บ้านเพื่อพูดคุยตกลงงานหมั้นหมายและงานแต่งกับลูกสาวตนเอง โดยมี ผช.ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านมาร่วมงานด้วย วันนั้นตกลงค่าหมั้นไว้ 10,000 บาทแต่เขาเอาให้แค่ 2,000 บาท ถือว่าดูถูกกันเกินไป จากนั้นเขาก็ให้ลูกชายเขาหนีไปไม่ให้ติดต่อลูกสาว พวกเราก็อายคนในหมู่บ้าน มาทำแบบนี้ได้อย่างไร ทำให้ครอบครัวเราเสียหน้าเสียตา อายคนในหมู่บ้าน อยากให้ติดต่อกลับมารับผิดชอบบ้าง

ทั้งนี้ 2 ฝ่ายได้มาคุยกันต่อหน้าผู้สื่อข่าว โดยฝ่ายหญิงเดินทางมาพร้อมกับแม่ บอกว่าอยากจะมาเรียกร้องค่าเสียหาย เมื่อพ่อฝ่ายชายได้ยินรู้สึกโมโหมากทุบโต๊ะต่อหน้า น.ส.นิ้ง พร้อมชี้หน้าบอกว่า ว่ามาจะเอาเท่าไร น.ส.นิ้ง ก็บอกว่าก็อยากได้ตามสัญญาคือ 50,000 บาท แต่ปรากฏว่าพ่อฝ่ายชายเดือด บอกว่า กรูจะปรับมึ-งแทน เพราะมานอนที่บ้าน มาอ่อยลูกชายให้รักแล้ว อยู่แค่ 2 วันทำดีเอาหน้า แล้วจะมาบอกให้ไปหมั้นและแต่งงาน ให้ 2,000 มัดจำเอาไว้ก็ไม่เอา อยากได้เป็นหมื่น แบบนี้ใช้ไม่ได้ ซึ่ง น.ส.นิ้ง ก็ไม่ยอม บอกว่า หนูมาวันนี้อยากมาเรียกค่าเสียหายของหนู ทำให้พ่อฝ่ายชายเดือดอีกครั้ง บอกว่า ค่าเสียหายอะไร ค่าเสียหายมึ-งหรือกรู อย่าได้ฝันว่ากรูจะให้ ทำให้ น.ส.นิ้งพร้อมแม่ ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปที่โรงพักเพื่อแจ้งความ

หลังจากพูดคุยกับ น.ส.นิ้ง พ่อของนายโหน่ง (นามสมมติ) เล่าว่าวันแรกที่เห็น น.ส.นิ้ง อยู่บ้านก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาคงรักกันชอบกันตามประสาหนุ่มสาว เห็นเขาออกมาช่วยหุ่งข้าวตอนเช้าก็สวัสดีทักทาย ช่วงอยู่ที่บ้านก็ออกมาล้างถ้วยล้างจาน ออกมาขายของช่วย พอเขาบอกให้ไปคุยกับแม่เราก็ไป เขาอ้างว่ากลัวแม่ด่าที่มาอยู่บ้านผู้ชาย เราก็ยินดีไปเพื่อทำให้มันถูกต้อง ตอนนั้นก็เริ่มแปลกใจแล้วพอไปถึงบ้านก็เป็นไปอย่างที่เห็น มีการพูดคุยถึงเรื่องหมั้นหมายเรื่องแต่งงานตอนแรกเขาเรียกเงินมา 7.5 หมื่นบาท ตนบอกไม่มีขนาดนั้น มีแค่เงินผูกแขนตามประเพณี 2,000 บาท แม่เขาก็โยนเงินคืนมาตน ตนจึงเก็บเงินคืนมา ส่วนที่ว่าค่าสินสอด 5 หมื่น กับทอง 1 บาท น.ส.นิ้ง ก็พูดเองทั้งหมด ตนถามลูกชายก็บอกจะหามาเองและต้องแปลกใจอีกครั้งก็ตอนเซ็นต์หนังสือสัญญา แต่ก็ต้องเซ็นต์ไปเพราะไม่นึกว่าเรื่องจะบานปลายถึงขนาดนี้ ส่วนตัวตนคิดว่าฝ่ายหญิงจะมาเกาะลูกชายตน เพราะตอนแรกที่ถามกันว่ามีลูกแล้วหรือยัง ฝ่ายหญิงโกหกตนว่ายังไม่มี ซึ่งพอตรวจสอบแล้วพบว่ามีลูกด้วย

ขณะที่ นายโหน่ง เล่าว่าตนเองเคยมีครอบครัวมาแล้ว 1 ครั้ง แยกทางกับภรรยาได้เกือบ 10 ปี มีลูกชาย 1 คน ลูกชายอยู่กับแม่เขาก่อนหน้านี้ไปบวชมา 2 เดือน เพิ่งสึกมาอยู่บ้านในช่วงก่อนเข้าพรรษา เพื่อมาทำงานช่วยที่บ้านและดูแลพ่อแม่ไม่เคยรู้จักกับ น.ส.นิ้ง มาก่อนเจอกันในวงสังสรรคที่บ้านเพื่อน เราเป็นโสดพอถามเขา ๆ ก็บอกว่าโสดเคยมีครอบครัวมีลูก 1 คนเพิ่งเลิกกับแฟนมา คุยกันจนถูกคอก่อนพาฝ่ายหญิงมาที่บ้านตื่นเช้ามาเขาก็ออกมาหุงหาอาหารออกมาค้าขายช่วยพ่อและแม่

ผ่านไป 2-3 วัน เขาก็บอกว่า ให้พาพ่อไปที่บ้านเพราะกลัวว่าแม่จะดุด่าว่ามาอยู่บ้านผู้ชายอยากให้ผู้ใหญ่ไปบอกกล่าวกัน แต่เมื่อไปถึงไม่เหมือนอย่างที่ตกลงไว้กลายเป็นว่าตกลงกันเรื่องหมั้นหมายเลยเถิดถึงขั้นแต่งงาน จึงต้องยุติเรื่องราวด้วยการไม่พูดอะไรก่อนแยกย้ายกลับมาที่บ้าน เช้าวันต่อมา น.ส.นิ้ง ก็ตามมาที่บ้านอีกตนเองก็ได้แต่ทน ในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ที่อยู่ด้วยกันผมให้เงินเขาใช้วันละ 1,000 บาท ไปรับจ้างไถนาได้เงินเท่าไหร่เขาก็เอาไปหมด เงินถูกหว-ยก็โดนยึดไปหมด เขาพูดกับผู้ใหญ่อย่างหนึ่งแต่มาพูดกับตนเองอีกแบบหนึ่งหาเรื่องดุด่า จนถึงทำร้า-ยร่-างก-ายแต่ตนก็ไม่ตอบโต้ไม่ทำร้า-ยคืน

นายโหน่งเล่าอีกว่า จนถึงวันที่ตนทนไม่ได้คือวันที่เขาบังคับตนเอาที่นา 10 ไร่ ไปจำนองตอนนั้นเกือบจะจำนองแล้ว แต่ติดเรื่องเอกสาร เขาก็ด่าว่าผมไม่มีปัญญาตนทนไม่ไหวจึงบอกไปขอแยกกัน ถ้าเขาไม่ไปตนจะไปเองจึงหนีไปบ้านญาติอยู่ในป่าในสวนตากหมอกจนเป็นไข้ ก่อนกลับมาที่บ้านในวันนี้ ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตนเองอยากเริ่มชีวิตใหม่เขาเข้ามาก็เปิดใจลองคบหา แต่กลับกลายเป็นว่าถูกกระทำแบบนี้อยากได้แต่เงินทองของตนตอนนี้ไม่ต้องการกลับมาคบหากันอีกทางใครก็ทางมันคงเข็ดกับผู้หญิงและความรักไปอีกสักพัก

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์ทีวี 34

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ