เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 65 บรรยากาศหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.อุทัยสวรรค์ มีการกั้นเชือกโปลิสไลน์รอบรั้ว ห้ามบุคคลใดเข้าไปด้านในพื้นที่จุดเกิดเหตุโดยเด็ดขาด

ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนมาวางพวงหรีด ดอกไม้ นอกจากนี้ มีครูสอนภาษาชาวต่างชาติจากจังหวัดอุบลราชธานี นำป้ายที่นักเรียนเขียนข้อความให้กำลังใจมาวางร่วมไว้อาลัย กลุ่มแม่ชีจากวัดป่าสมบูรณ์ อ.เอราวัณ จ.เลย ร่วมกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล และแผ่เมตตาแก่ผู้ที่จากไป

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าชาวบ้านไม่ต้อนรับแม่ของคนก่อเหตุนั้น นางดอกไม้ กอแก้ว อายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่บ้านท่าอุทัย ยืนยันว่าไม่มีการขับไล่แม่ผู้ก่อเหตุ แต่อยากให้แม่ผู้ก่อเหตุขอโทษครอบครัวผู้ที่จากไปเท่านั้น ซึ่งตนทราบดีว่าไม่มีแม่ที่ไหนอยากให้ลูกทำไม่ดี และแยกแยะได้ว่าคนก่อเหตุกับแม่เป็นคนละคนกัน โดยหากแม่ผู้ก่อเหตุ จะอยู่ในหมู่บ้านต่อก็เป็นเรื่องของเจ้าตัว

ด้านนางสาวสุวรรณ (นามสมมติ) ชาวบ้านใกล้บ้านผู้ก่อเหตุ บอกว่า เมื่อวานญาติผู้จากไปอีกรายได้มีการทำบุญนำพระสงฆ์มาสวด ซึ่งตอนนั้นช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ตนเหลือบไปเห็นผู้ชายใส่เสื้อสีดำนุ่งกางเกงขายาว สวมหมวก และใส่โม่งปิดบังใบหน้า และแบกเครื่องตัดหญ้าไว้ที่บ่า เดินไปอยู่บริเวณแถวบ้านผู้ก่อเหตุ ขณะที่พระกำลังสวดตนก็ได้ยินเสียงเครื่องตัดหญ้าภายในบ้านของผู้ก่อเหตุ ตอนนั้นก็ยังคงสงสัยก็พูดกับเพื่อนบ้านว่า ใครเข้าไปตัดหญ้าให้มัน มันทำชั่วขนาดนั้น ไปทำให้มันทำไม ซึ่งเพื่อนบ้านบอกว่าไม่มีใครได้ยินเสียง ยังไม่มีใครสามารถเข้าไปในที่บ้านของผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากตำรวจยังไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป ยืนยันได้ว่าเห็นเป็นคนจริง ๆ และลักษณะท่าทางเหมือนกับผู้ก่อเหตุ เชื่อว่าคือวิญญาณของผู้ก่อเหตุ

ส่วนตัวรู้สึกตกใจกับภาพที่เห็น และรู้สึกหวาดกลัว วันนี้ถึงเดินทางไปให้ญาติผู้ใหญ่ผูกข้อไม้ข้อมือเรียกขวัญให้ ยอมรับว่าตอนนี้ก็ยังคงกลัว ไม่กล้าออกไปไหนตอนเวลากลางคืน เพราะช่วงเวลาที่เจอก็ประมาณ 18.00 น. ยังไม่ดึกมากยังเจอขนาดนี้ ส่วนกรณีชาวบ้านมีการขับไล่แม่ของผู้ก่อเหตุออกจากพื้นที่ ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องนี้ และไม่เห็นใครขับไล่ ตนมองว่าเป็นคนละเรื่องกัน

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์ทีวี