แม่หนูน้อยที่ได้อันดับหนึ่ง พูดเสียงสั่นตอบน้องรู้ไหมเรื่องดราม่า บ้านรวย เป็นเด็กเส้น รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด

แม่หนูน้อยที่ได้อันดับหนึ่ง พูดเสียงสั่นตอบน้องรู้ไหมเรื่องดราม่า บ้านรวย เป็นเด็กเส้น รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด

จากกรณี ดราม่า หนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพง เวทีประกวดชื่อดังของจังหวัดกำแพงเพชร หลังมีการตัดสินผลรางวัลชนะเลิศแบบค้านสายตาคนดู จนทำให้เกิดปรากฎการณ์แม่ตัดสินใจเดินขึ้นเวที ถอดรางวัลคืนและจูงมือลูกกลับบ้าน

ซึ่งหลังจากนั้น แม่ของน้องอิงฟ้าได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้อิงฟ้าได้ที่ 2 ค่ะ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงๆ เราเดินสายประกวดมาร่วม 40 เวที ไม่เคยเจอแบบนี้จริงๆ ขอดูคะเเนนที่เป็นลายมือกรรมการก็ไม่ให้ดู ทำเสียงดังใส่เราและ ผปค.ทุกคนที่ขอดูคะเเนน สงสารลูกจับใจ น้องซ้อมตอบคำถามหนักมาก ซ้อมเดินหนักมาก และวันนี้น้องทำสุดยอด พร้อมทุกอย่างเสื้อผ้าหน้าผม บุคลิกภาพ ตอบคำถามสนั่น แล้วเค้าทำกับลูกแม่แบบนี้ได้ยังไง

เค้าไม่นึกถึงจิตใจเด็กเลยหรอว่ามาประกวดเค้าเตรียมตัวมากันขนาดไหนเพราะวันนี้ไม่ใช่แค่อิงฟ้าที่โดนค่ะ โดนกันถ้วนหน้า ไม่ให้ดูคะเเนนสักรอบ ตอนจับเบอร์รายงานตัวเด็กบอกกติกาว่า บังคับผมฟาร่าเท่านั้น แล้วนี่คือ เนี่ยนะหรอความโปร่งใส แม่บอกเลยแม่ไม่ยอม พรุ่งนี้เตรียมตัวขึ้นพบท่านเเน่นอน และศูนย์ดำรงธรรม เจอกัน เราเรียกร้องในสิทธิ์ของเรา เราปกป้องลูกเราไม่ผิด

ล่าสุดได้มีการเข้าไปสอบถามทาง น.ส.พาชื่น โตพุ่ม อายุ 44 ปี ชาว ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นคุณแม่ของ ด.ญ.ศิณิต้า เฮกีล่า หรือน้องกีว่า วัย 5 ขวบ ที่ได้รางวัลชนะเลิศ หนูน้อยกล้วยไข่

น.ส.พาชื่น เปิดเผยว่า ตนมีความรู้สึกไม่สบายใจกับข้อความในคอมเมนต์ต่างๆ เช่น บ้านรวย เป็นเด็กเส้น รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด จนคว้าชัยชนะ ทั้งที่แท้จริงแล้วตนเป็นเพียงแม่ค้าขายขนมจีบรถเข็นอยู่ริมทาง เป็นคนหาเช้ากินค่ำธรรมดาเท่านั้น ด้วยความเป็นแม่ทุกคนก็อยากปกป้องลูก ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาว่าลูกเราด้วยถ้อยคำเสียหาย อยากให้คนที่คอมเมนต์ได้ดูความเป็นจริงทั้งสองด้าน ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นที่บั่นทอนจิตใจคนอื่น

น.ส.พาชื่น กล่าวต่อว่า ส่วนตัวน้องกีว่ายังไม่เข้าใจถึงกระแสดราม่าต่างๆ น้องทราบแต่เพียงว่าตัวเองชนะการประกวดได้รางวัลที่หนึ่งและได้ออกทีวีด้วย สำหรับน้องกีว่า เป็นเด็กชื่นชอบในการแสดงออก พูดจาเก่ง มีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ร่าเริงเหมือนเด็กทั่วไป ตอนนี้น้องก็ใช้ชีวิตตามปกติ ตนก็สนับสนุนในสิ่งที่ลูกอยากจะทำให้ดีที่สุดเพียงเท่านั้น แค่ลูกกล้าแสดงออกตนก็รู้สึกภูมิใจมากแล้ว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ