จากกรณีนางสาวรุ่งหทัย อายุ 42 ปี นักธุรกิจส่วนตัวได้ถือชะแลงปีนขึ้นบนกระโปรงรถก่อนจะทุบที่กระจกหน้ารถแตกละเอียดเพื่อประชดศูนย์รถยี่ห้อหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากเพิ่งซื้อรถป้ายแดงมาใหม่ด้วยเงินสด ใช้รถไปได้แค่ 938 กิโลเมตรก็มีปัญหาหลายอย่าง พอนำรถไปแจ้งศูนย์ฯ เพื่อตรวจเช็กแต่ได้คำตอบกลับมาว่ารถปกติดี

ล่าสุด วันนี้ (24 ก.ย.) นางสาวรุ่งหทัย ได้ขับรถคันดังกล่าวมาที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับโชว์ป้ายกระดาษมีข้อความว่าข้าพเจ้าชื่อนางสาวรุ่งหทัย ต้องการและยินยอมขายรถคือให้บริษัทยอมขาดทุน ขอร้องซื้อคืนนะคะ และมีการนำอุปกรณ์เครื่องฟอกอากาศตัวที่อ้างว่ามีปัญหามาติดตั้งโชว์ให้ทางสื่อมวลชนดู

ผู้เสียหายเปิดเผยว่า จากกรณีบริษัทรถออกมาชี้แจงว่า ลูกค้าได้มีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งส่งผลทำให้คลื่นความถี่มีผลกระทบต่อระบบตรวจวัดแรงดันลมยางจึงแนะนำให้ลูกค้าถอดอุปกรณ์ดังกล่าวออก จึงอยากถามกลับว่าหลังจากที่ตนซื้อรถเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ทางบริษัทที่มีการเสนอขายเครื่องฟอกอากาศรถยนต์โดยมีการทำใบเสนอราคาเป็นจำนวนเงิน 4,615 บาท จึงอยากถามกลับว่ามันแตกต่างจากของตนตรงไหน อย่าพยายามบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ

อีกทั้งวันนี้ตนได้ขับรถเจ้าปัญหาคันดังกล่าวไปที่โชว์รูมเพื่อที่จะเสนอขายรถคืนให้กับบริษัท หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน เวลา 17.52 น. ได้มีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาติดต่อเพื่อจะขอซื้อรับคืน พอไปถึงโชว์รูมก็ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สอบถามว่าติดต่อกับใคร ตนแจ้งกลับไปว่ามีเบอร์ที่โชว์รูมโทรมาซึ่งก็เป็นเบอร์ที่ศูนย์รถจริง จึงบอกให้นั่งรอโดยไม่สามารถหาคนที่จะประสานงานเรื่องดังกล่าวได้ ตนจึงได้เดินทางกลับ ซึ่งตนยืนยันว่าจะขายรถดังกล่าวคืนศูนย์ถึงแม้ขาดทุนก็ยอม อยากให้เรื่องนี้มันจบแต่ดูแล้วน่าจะจบยากเพราะยังหาคนรับผิดชอบไม่ได้จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย