ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เรียกผู้เสียหายและช่างอาคารคอนโด เข้าให้ปากคำอีกครั้ง หลังฝ่ายหญิงร้องถูกฝ่ายชายฉุดหวังข่มขืน ด้านภรรยาช่างคอนโด นำหลักฐานแฉฝ่ายหญิงและพี่สาว เคยเป็นชู้กับสามี มีความลึกซึ้งไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง แต่ยืนยันให้อภัยสามี และอยากให้ฝ่ายหญิงออกมายอมรับความจริง ส่วนแม่ ร่ำไห้ ลูกชายเป็นดี พร้อมขอความเป็นธรรมให้ครอบครัว เชื่อถูกแบล็กเมล์ ขณะที่ผู้เสียหาย โต้กลับ ครั้งนี้ไม่ยินยอมให้ล่วงเกิน แม้เคยมีอะไรกันจริง 1 ครั้ง

ความคืบหน้าคดีพี่สาวหญิงอายุ 18 ปี แจ้งความช่างคอนโด ย่านบางบัวทอง หลังบุกรุกเข้าไปในห้องกลางดึกและพยายามที่จะข่มขืน ซึ่งต่อมาทางคอนโดได้ให้ช่างคอนโดคนดังกล่าว พ้นสภาพพนักงาน ขณะที่ลูกบ้านมองว่า ทั้งช่างและหญิงในคลิปน่าจะเป็นกิ๊กกัน ส่วนแม่ของผู้ก่อเหตุมองว่าลูกชายถูกฝ่ายหญิงแบล็กเมล์ และหากลูกชายไม่ผิดเตรียมที่จะฟ้องกลับ ตามข่าวก่อนหน้านี้

ล่าสุด แอล อายุ 25 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนรับรู้มาตลอดว่าสามีและฝ่ายหญิงเคยคุยและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริง โดยวันนี้นำแช็ตหลักฐานที่เคยจับได้ว่าทั้งคู่เคยพูดคุยกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา นานกว่า 4 เดือนแล้ว รวมถึงแช็ตที่สามีเคยคุยกับพี่สาวของน้องผู้เสียหายด้วย ลักษณะทำนองกุ๊กกิ๊ก พร้อมยืนยันว่าสามีไม่ได้ก่อเหตุข่มขืนตามที่เป็นข่าว แต่ทั้งคู่รู้จักกันและเคยได้เสียกันมา รวมถึงฝ่ายหญิงยังเคยใช้ให้สามีขึ้นไปให้อาหารปลาอยู่บ่อยๆ

ส่วนตัวพร้อมให้อภัยสามี เพราะเป็นพ่อของลูกชายวัย 5 ขวบ และวันนี้ตั้งใจพาสามีมาให้ปากคำกับทางตำรวจ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ โดยที่ผ่านมายอมรับว่าเคยเจอฝ่ายหญิงตอนไปจ่ายพัสดุให้ที่คอนโด และเคยเตือนไปแล้ว 1 ครั้ง จึงคิดว่าน่าจะจบเรื่องแล้ว สุดท้ายก็มาเกิดเรื่องขึ้น ตอนนี้ยอมรับว่าโกรธฝ่ายหญิงและเสียใจมาก จึงอยากให้ฝ่ายหญิงออกมายอมรับความจริงที่เกิดขึ้น

เฟียส ช่างอาคารผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ยอมรับว่า ตนกับผู้หญิงกิ๊กกันจริง ตอนนี้กล้าออกมาพูดความจริง เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว หลังเกิดเหตุพอตนลงมาจากห้องของฝ่ายหญิง ก็ยังทำงานปกติ ไม่ได้หลบหนีไปไหน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะนำเรื่องไปแจ้งความหาว่าตนพยายามข่มขืนในวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา พอตนได้รับหมายเรียกในวัน 22 สิงหาคม ตนจึงเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.บางบัวทอง ยอมรับว่าตกใจและงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เฟียส ยังบอกอีกว่า ในวันเกิดเหตุฝ่ายหญิงกลับมาจากข้างนอก แล้วไปขอให้ตนเปิดประตูขึ้นคอนโดให้ เพราะลืมคีย์การ์ด ซึ่งระหว่างขึ้นลิฟต์ ตนกับผู้หญิงก็หยอกล้อกันตามปกติเหมือนที่ผ่านมา และหลังจากเปิดประตูห้องก็ดันกันเข้าห้อง และไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่เข้าไปนั่งเล่น แต่ยอมรับว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน 1 ครั้ง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีการฉุดกระชาก ถอดเสื้อผ้า เนื่องจาก ผ่านไปไม่นาน แฟนของฝ่ายหญิงก็มา ก่อนยอมรับว่าตนเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งทั้งพี่และน้อง

นอกจากนี้ เฟียส ยังบอกอีกว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนกับฝ่ายหญิงก็ยังมีความสัมพันธ์กันปกติและยังไม่ได้เลิกคุยกัน และยืนยันว่า ตนกับผู้หญิงไม่ได้ทะเลาะกัน เพราะหลังจากลงมาจากห้องยังพูดกับพี่สาวของฝ่ายหญิงว่า รู้ไหมว่าน้องสาวเอาแฟนมาห้อง ซึ่งตนก็พูดให้เชิงไม่พอใจ พร้อมอยากบอกกับฝ่ายหญิงว่า ตอนนี้ตนและครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะโดนทางคอนโดให้ออกจากงาน ไม่มีเงินเดือนไปเลี้ยงดูครอบครัว และเสียงชื่อเสียงอีกด้วย

ขณะที่พันตำรวจเอกพฤฒ จำรูญศาสน์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง ระบุในทางคดีว่า เรื่องนี้ทางผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางตำรวจได้เรียกให้ฝ่ายชายเข้ามาให้ปากคำตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะได้คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดภายในคอนโดมาเป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา วันนี้จึงได้เรียกให้ทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาสอบปากคำอีกครั้ง และยืนยันว่าทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นในวันนี้สามารถแจ้งข้อหากับฝ่ายชายได้เพียง 1 ข้อหา คือ บุกรุกในเวลากลางคืน ส่วนข้อหาข่มขืนหรืออนาจารยังไม่ชัดขอตรวจสอบอีกครั้ง

โดยจากการสอบปากคำของทั้งคู่ไปก่อนหน้านี้พบว่าให้การสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันและทราบว่าเป็นคนรู้จักกันมาก่อน แต่ในส่วนข้อเท็จจริงยังไม่ลงลึกว่าแท้จริงเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องให้ฝ่ายหญิงไปตรวจร่างกายก่อนและคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาสักพัก ตอนนี้สามารถยืนยันได้เพียง 2 อย่างเท่านั้น คือ มีการฉุดเข้าห้องและทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักกัน

และครั้งนี้ได้เจอกับผู้เสียหาย ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุตนไปกินข้าวกับเพื่อน ก่อนกลับมาที่คอนโดและขอให้ช่างอาคารมาเปิดประตูให้ แต่ปรากฎว่าฝ่ายชายกลับเดินตามเข้ามาในลิฟต์ ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่ามีความกังวลและกลัว เพราะฝ่ายชายพยายามชวนคุย ตนก็บอกว่าให้กลับไปทำงาน แต่เขากลับตอบว่า “งานไม่ต้องทำก็ได้ ตนจึงพยายามไลน์หาเพื่อนผู้ชายที่มาส่งหน้าคอนโดอยู่เรื่อยๆ ถึงความไม่ปลอดภัย พอถึงชั้น 8 กำลังจะเข้าห้อง ฝ่ายชายได้โบกไม้โบกมือเหมือนจะลงลิฟต์กลับไปแล้ว แต่พอตนเปิดห้องออก เขาก็เดินกลับมาเปิดประตูเอง และดึงตนเข้าไปในห้องตามคลิป

โดยช่วงเกิดเหตุตนพยายามร้องให้คนช่วยและได้โทรหาเพื่อนผู้ชายให้ขึ้นตามมา ซึ่งตอนนั้นช่วงที่เขาดึงเราเข้าไปในห้อง ตนก็ถามเขาว่า ทำไมทำแบบนี้ แต่เขาพยายามให้เราวางโทรศัพท์ และปลดสายเสื้อใน รวมถึงถอดเสื้อผ้าของตนออกทั้งหมด พร้อมที่จะสอดใส่อวัยวะเพศ โดยตนพยายามที่ดิ้นและร้องขอชีวิต แต่โชคดีที่เพื่อนผู้ชายมาเคาะประตูและเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน เขาก็ยังพูดว่า โอ้ย อารมณ์เสีย

ผู้เสียหาย ยังบอกอีกว่า อยู่คอนโดนี้มานาน 1 ปี และยอมรับว่าช่วงแรกๆ ฝ่ายชายเคยทักมาจีบและเคยได้คุยกันจริง จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่ได้คบกัน ซึ่งตอนนั้นยืนยันว่า ไม่รู้มาก่อนว่าฝ่ายชายมีภรรยา พอทราบภายหลังจึงเลิกคุยเลิกติดต่อทันที โดยในช่วงที่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งครั้งแรก เขาก็เดินตามตนขึ้นมาแบบนี้ พร้อมอ้างว่า”ขอคุยธุระหน่อย 5 นาที ก่อนลากตนเข้าไปในห้องนอนขณะที่พี่สาวอยู่ในห้องนั่งเล่น ก่อนมีอะไรกัน ตอนนั้นยอมรับว่าก็เครียด จึงออกมาปรึกษาพี่สาว

ซึ่งแม้ว่าจะเคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ปัจจุบันตนไม่ยินยอมแล้ว เพราะไม่ได้ติดต่อกันนานมาก และเขาพยายามข่นขืนตนจริง แต่ไม่คิดว่าการออกมาพูด จะทำให้มีกระแสตีกลับ ประกอบกับฝ่ายชายออกมาพูดในสิ่งที่ไม่จริงด้วย ยอมรับว่าตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่ และไม่ขอไกล่เกลี่ยแล้ว ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่พี่สาวของผู้เสียหาย ยืนยันว่า ตนไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฝ่ายชายแน่นอนเหมือนที่เขาออกมาพูด แต่ยอมรับว่าสนิทกันจริง และที่ผ่านมามักจะวานให้ฝ่ายชายเอาอาหารไปให้ปลาบ้าง ด้วยความไว้ใจ ซึ่งตนรู้สึกไม่โอเคที่ฝ่ายออกมาพูดแบบนี้ และเสียความรู้สึกที่ฝ่ายชายเป็นคนแบบนี้

ตอนนี้ยอมรับว่าเป็นห่วงน้องสาว เพราะยังเครียด และขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ยืนยันทุกอย่างที่เคยพูดเป็นความจริง โดยหลังฝ่ายชายออกมาพูด ตนไม่โกรธ แต่แค่สงสัยว่าทำไมถึงออกมาพูดแบบนี้ ทั้งๆหลังเกิดเหตุฝ่ายชายพยายามใช้ไลน์นิติพิมพ์มาขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าจะให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และตนไม่ยอมแล้ว แม้ว่าที่ผ่านมาอยากจะไกล่เกลี่ย เพราะสงสารครอบครัวของฝ่ายชาย.

ขอบคุณ ข่าวช่องวัน