แฉส.ต.ท.หญิงทำร้ายร่างกายยังไม่พอ เรียกเงินลูกจ้าง 5 แสนค่าฝากเป็นทหาร หักจากเงินเดือน

แฉส.ต.ท.หญิงทำร้ายร่างกายยังไม่พอ เรียกเงินลูกจ้าง 5 แสนค่าฝากเป็นทหาร หักจากเงินเดือน

จากกรณีพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร.ร่วมแถลงข่าวการดำเนินคดีส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ที่ถูกอดีตทหารหญิงซึ่งเป็นลูกจ้าง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีบังคับใช้แรงงานดูแลรับใช้ และทำร้ายร่างกาย เช่น ถูกตบตี ถูกเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อต ใช้ไม้หน้าสามตีที่ใบหน้า เป็นต้น เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ตามที่ปรากฏในข่าวและสื่อต่างๆ ไปแล้ว ในเรื่องนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ทางผบ.ตร. ได้กำชับว่า

เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง จึงต้องเร่งทำความจริงให้กระจ่างพร้อมกำชับให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี และชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ออกสืบสวนติดตามคดีอย่างเร่งด่วน และให้นำผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ร่วมกับสหวิชาชีพ เพื่อพิจารณารายละเอียดพฤติการณ์ให้ครบถ้วน

ทั้งนี้ จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่าผู้ก่อเหตุคือ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 และจากการสอบสวนปากคำ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ทราบว่าตนเองรู้จักกับผู้ต้องหามาเป็นเวลาหลายปี โดยก่อนหน้านี้ได้มาช่วยผู้ต้องหาทำงานที่ร้านกาแฟ ก่อนจะปิดตัวลงในภายหลัง เนื่องจากขายไม่ดี ต่อมาผู้ต้องหาแจ้งว่าจะฝาก น.ส.เอ เข้ารับราชการทหาร "โดยเรียกเงินค่าดำเนินการ จำนวน 5 แสนบาท ซึ่งตนนั้นได้จ่ายให้แล้วบางส่วน เหลือยอดหนี้ที่ผู้ต้องหาต้องการอีก 240,000 บาท

โดยได้หักออกจากเงินเดือนหลังเข้ารับราชการแล้ว เหลือเพียงเดือนละ 3,000 บาทต่อเดือน จากนั้นผู้ต้องหาได้ย้าย น.ส.เอ ไปช่วยราชการ และยังบังคับให้ น.ส.เอ มาทำงานอยู่ที่บ้านของผู้ต้องหา โดยทำหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน ขับรถ ดูแลเรื่องอาหารการกิน และอื่นๆ ตามที่ผู้ต้องหาสั่ง เมื่อ น.ส.เอ ทำสิ่งใดไม่ถูกใจ ก็จะถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการทุบตีตามร่างกาย ใช้ไม้หน้าสามตีตามเนื้อตัว ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย ต่อมาผู้ต้องหาได้บังคับให้ น.ส.เอ ลาออกจากทหาร และขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะทำร้ายร่างกายอีก น.ส.เอ จึงยื่นหนังสือลาออกจากราชการ เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา แต่ผู้ต้องหายังบังคับและทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ เช่นเดิม ต่อมา น.ส.เอ ได้ขอความช่วยเหลือจากทางบ้านเพื่อให้พาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุด"

ล่าสุด วันที่ 20 ส.ค. ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ผู้ต้องหา ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี โดยพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ผู้ต้องหาว่าเป็นข้าราชการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยการข่มขื-นใจผู้อื่นให้ทำงานหรือให้บริการโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของบุคคลนั้นเอง หรือผู้อื่น โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ ซึ่งบุคคลใด

โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลัก พา ตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะอ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา หรือทางอื่นใดโดยมิชอบ ขู่เข็ญว่าจะใช้กระบวนการทางกฎหมายโดยมิชอบ หรือโดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น แก่ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลบุคคลนั้น เพื่อให้ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ให้ความยินยอมแก่ผู้กระทำความผิด ในการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลที่ตนดูแล อันเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ (ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 6, มาตรา 6/1, มาตรา 13

และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงได้กำชับให้มีความละเอียดรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้ความช่วยเหลือกับเหยื่อให้ได้รับความยุติธรรม ในกรณีของตัวตำรวจหญิงซึ่งได้มอบตัวแล้วนั้น จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดและไม่มีการยกเว้น นอกจากนี้จะให้ทางต้นสังกัดพิจารณาโทษทางวินัยเพื่อมิให้เกิดการกระทำผิดในลักษณะเช่นนี้อีก

ขอบคุณ ไทยรัฐ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ