ย้อนรอย พิงกี้ สาวิกา โดนคดี Forex หลังจากที่ศาลไม่ให้ประกันตัว

ย้อนรอย พิงกี้ สาวิกา โดนคดี Forex หลังจากที่ศาลไม่ให้ประกันตัว

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายคนนั้นพูดถึงกันเป็นอย่างมากสำหรับที่มาที่ไปของคดีนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว นายอภิรักษ์ โกฎธิ กับพวก ได้ใช้เว็บไซต์ www.forex-3D.com เป็นช่องทางในการหลอกโฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไป ให้นำเงินไปลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ Forex

โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60-80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรด Forex แต่ไม่ได้นำเงินไปลงทุนจริง แต่เป็นลักษณะของธุรกิจ ทั้งนี้ การกระทำของนายอภิรักษ์ฯ กับพวก เป็นความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ต่อมา

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการออกหมายจับนายอภิรักษ์ฯ และแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคลและนิติบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดอีกหลายราย โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับไว้เป็นคดีพิเศษและได้ดำเนินการสอบสวนปากคำผู้เสียหายจากการลงทุนจำนวน 8,436 คน มีมูลค่าความเสียหายรวมจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท

โดยทาง พิ้งกี้ โดน 3 ข้อหา ทางด้าน น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ พิ้งกี้ นายสรายุทธ ไชยเดช พี่ชาย และนางสรินยา ไชยเดช แม่ของดาราสาว ในคดีนี้ด้วย ใน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการโกงประชาชน ร่วมกันโกงประชาชน และร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จ

เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยทั้งสามคนได้รับทราบข้อกล่าวหาไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค โดย น.ส.สาวิกาและครอบครัวได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้ขอชี้แจงเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินที่ตรวจยึดอายัดในคดี Forex-3D ให้ ปปง.

มูลค่ากว่า 230 ล้านบาท ทั้งรถยนต์ ที่ดิน ทองรูปพรรณ และทรัพย์สินอื่น ๆ เพื่อชดใช้ให้ผู้เสียหายล่าสุดวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลฯ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกิตติเชษฐ์ หรือ สราวุธ ไชยเดช

กับพวกรวม 19 คน ในความผิดฐานโดยทุจริต โดยหลอกร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯร่วมกันกู้ยืมเงิน ที่เป็นการโกงประชาชนและร่วมกันโกง

จากกรณีคดีฟอร์เล็กซ์ FOREX ต่อมาภายหลังที่มีการยื่นฟ้องแล้ว น.ส.สาวิกา ไชยเดช จำเลยที่ 2 และ นางสรินยา ไชยเดช จำเลยที่ 3 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลอาญา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความหนักเบาแห่งข้อหา

และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าข้อหามีอัตราโทษสูง ค่าเสียหายตามฟ้องมีจำนวนมาก กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแล้ว จำเลยที่ 2 และที่ 3 น่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง ก่อนคุมตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ