นักเรียนหญิงหน้าคล้าย มิลลิ ราวกับแฝด

นักเรียนหญิงหน้าคล้าย มิลลิ ราวกับแฝด

กลายเป็นกระแสฮือฮาว่อนโลกออนไลน์ จนชาวเน็ตถึงกับสับสน ว่านี่ตัวจริงหรือคนหน้าเหมือน หลังได้มีการแชร์คลิปของนักเรียนหญิงรายหนึ่งที่ใบหน้าดูละม้ายคลายกับน้องร้องสาววัยรุ่นชื่อดังอย่าง มิลลิ ซึ่งทุกคนที่ได้เห็นต่างก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนมาก เรียกได้ว่าราวกับเป็นพี่น้องแฝด

โดยคลิปนี้ถูกแชร์โดย ครูโอม ซึ่งได้อัปโหลดคลิปลงในแอปติ๊กตอก เป็นคลิปนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับ มิลลิ นักร้องแร็ปเปอร์สาวชื่อดัง โดยครูได้บรรยายเพิ่มเติมว่า เด็ก ๆ ในแผนกบอกว่า น้องคนนี้เหมือนมิลลิเลยครู ทั้งยังพิมพ์แคปชั่นบนคลิปอีกว่า นี่คือคิดว่าสอนมิลลิอยู่

ซึ่งหลังจากคลิป นักเรียนหญิง หน้าคล้าย มิลลิ ถูกแชร์ออกไปก็กลายเป็นคลิปสุดไวรัลที่มียอดผู้เข้ารับชมจำนวนมาก และยังมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์จำนวนมาก ส่วนใหญ่บอกว่า น้องนักเรียนหญิง คนนี้หน้าเหมือนมิลลิแบบจริงจัง ตอนดูผ่าน ๆ มิลลิ พออ่านเอ้า ไม่ใช่ ถึงกับต้องดูซ้ำ นอกจากนี้หลายคนยังบอกว่าเหมือนสมัยตอนมิลลิเข้าวงการใหม่ๆ เลย อีกทั้งยังมีหลายคนอยากให้มิลลิได้มาเห็นคลิปนี้อีกด้วย

ดนุภา คณาธีรกุล หรือชื่อในวงการที่เรารู้จักกันในนาม มิลลิ เป็นแร็ปเปอร์หญิงชาวไทย เป็นที่รู้จักจากเพลง พักก่อน เธอนั้นเข้าสู่วงการจากการประกวดเดอะแร็ปเปอร์ ซีซั่น 2 โดยเป็นผู้เข้าแข่งขันที่ถูกจับตามองจากผู้ชมและคณะกรรมการเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอมีสไตล์การร้องเพลงที่แหวกแนวกว่าผู้เข้ากวดคนอื่น ๆ ซึ่งต่อมาเธอก็ได้เป็นศิลปินในค่าย วายยูพีพี ซึ่งเธอเป็นศิลปินหญิงเพียงคนเดียวของค่ายนั่นเอง

ความสามารถของเธอนั้นเรียกได้ว่าโดดเด่นและเป็นที่น่าจับตามองขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอนั้นได้เป็นศิลปินจากประเทศไทยคนแรกที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีระดับโลก ในเทศกาลดนตรีและศิลปะโคเชลลาแวลลีย์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอนั้นได้ขึ้นแสดงร่วมกับศิลปินจาก 88rising ซึ่งในช่วงท้ายของการแสดงเธอยังได้โชว์ทานข้าวเหนียวมะม่วงบนเวที จนนำไปสู่กระแสการสั่งซื้อข้าวเหนียวมะม่วงกันทั่วประเทศไทยนั่นเอง

แถมล่าสุด เธอยังได้ร่วมขึ้นแสดงโชว์เปิดสนามการแข่งขันฟุตบอลของคู่แดงเดือด the match ระหว่างทีมลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับศิลปินระดับโลกอย่าง แจ็คสัน หวัง ท่ามกลางสนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งงานนี้เรียกได้ว่าสามารถเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม phuckitol และติ๊กตอก oheshem

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ