เรียกได้ว่าเป้นอีกหนึ่งคู่รักที่ได้เป็นประเด็นพูดถึงกันอย่างมากซึ่งอยู่ๆ ก็มีข่าวว่าพระเอกหนุ่ม ตงตง กฤษกร กนกธร กับ เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ เป็นคู่รักที่เลิกกันไปแบบเงียบๆ สาเหตุมาจากที่ว่าช่วงนี้ทั้งคู่ไม่มีภาพหวานๆ ออกมาเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ ล่าสุดพระเอกหนุ่ม เปิดใจในงาน Inclusive Growth Days empowered by OR ที่ รร.เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์

ถึงประเด็นดังกล่าว โดยพระเอกหนุ่มเผยว่า ทุกอย่างผมก็ไม่สามารถที่จะไปบังคับใครได้ มันเป็นพื้นที่การแสดงความเห็นของแต่ละคนในพื้นที่ส่วนตัว เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมทำได้คือเราต้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ฉะนั้นผมก็ต้องจับมือน้อง แล้วก็เดินไปต่อกับน้อง เห็นข่าวนี้ไหม มีคนบอกมา แต่ว่าผมก็ไม่ได้ตามดูข่าว ผมทำอะไรไม่ได้ ถึงผมจะเข้าไปอ่านคอมเมนต์ เราคิดอย่างเดียวเลย

ผมไม่อยากให้น้องเบสท์รู้สึกเป็นกังวลหรือว่าคิดมาก อ่านแล้วทำให้เวลาทำงานของน้อง ไปคิดถึงเรื่องอื่นๆเพราะตัวน้องเองก็มีงานละครและต้องถ่าย YouTube ด้วย ผมรู้สึกว่ามีข่าวอะไรอย่างนี้ มันไปกระทบจิตใจน้อง น้องก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ แล้วน้องก็กำลังมีโอกาสได้เล่นละครอีกเรื่องหนึ่ง อยากให้น้องไปลุยงาน YouTube งานละครให้เต็มที่ อย่างตัวผมเองผ่านมาเยอะแล้ว

ผ่านข่าวนู่นนี่นั่นมา เรารู้ว่าจะทำอย่างไรกับมันและเราจะลุยต่อยังไง ผมคอยบอกเบสท์อยู่เสมอว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เราเป็นคนของประชาชน เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่เราทำได้ก็คือเรารักกันไว้ ถ้าเรารักกันจับมือไปด้วยกัน เบสท์เครียดเรื่องข่าวไหม ผมว่าน้องมีเครียด แต่น้องไม่ได้มาเล่าให้ผมฟัง อย่างเมื่อก่อนเวลาที่มีข่าวอะไรไม่ดี เห็นชัดเลยว่าสีหน้าเบสท์จะไป

แล้วน้องก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต ตอนนี้น้องก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงปีกว่าแล้วเหมือนน้องจะโตขึ้นเก่งขึ้น นี่คือสิ่งที่น่าชื่นชม ผมรู้สึกว่าที่น้องไม่บอกผมเพราะน้องไม่อยากให้ผมรู้สึกกังวล เพราะตัวผมเองตอนนี้ก็มีซีรี่ส์และละครที่กำลังจะเปิดกล้อง มีละครยังถ่ายไม่จบอีกหนึ่งเรื่อง ทำงาน 7วัน ผมก็เลยคิดว่าน้องน่าจะเป็นห่วงผมด้วย เลยไม่อยากเล่าเรื่องข่าวให้ฟัง

เหมือนพอมีข่าวคู่รักเลิกเงียบ เราควงคู่ออกมาสยบข่าวทันที วันนั้นไปดูบอลคู่แมนยูกับลิเวอร์พูล น่าจะมีข่าวสยบข่าวคู่รักเลิกเงียบ จริงๆมันเป็นการดูบอลที่เรานัดกันไว้ตั้งนานแล้ว เราใช้ชีวิตด้วยกันแบบนี้ สุดท้ายแล้วผมกับเบสท์เราก็รักกัน เราก็เป็นคู่รักธรรมดาคู่หนึ่ง คือทุกคนคาดหวังว่าต้องแฮปปี้ ผมเองก็อยากให้แฮปปี้ทุกวัน เบสท์เองก็อยากให้แฮปปี้ทุกวันเหมือนกัน

แต่สุดท้ายความรักมันก็ต้องมีอุปสรรค ผมไม่ดี ผมผิด มันก็มี เบสท์ไม่ดี เบสท์ผิดก็มี แต่ว่าเราจะหาทางแก้ไขอย่างไรเรายังมองไปในทิศทางเดียวกันอยู่ไหม ถ้าเรายังรักกันยังมองไปในจุดเดียวกัน จับมือไปด้วยกันแล้วไปให้สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมเชื่อว่าสิ่งนั้นจะทำให้เราเรียนรู้และทำให้เรารักกันมากขึ้น ผมเองก็เป็นคู่หนึ่งที่มีปัญหา มีแฮปปี้ มีเสียใจ มีร้องไห้เหมือนทุกๆคู่

เพราะช่วงหลังเราหวานกันน้อยลงหรือเปล่าเลยถูกจับตามองว่าเป็นคู่รักเลิกเงียบ ผมว่าน่าจะใช่ เพราะว่าตัวผมเองก็ทำงาน 7วัน แทบจะไม่ได้เจอน้องเลย น้องเองก็ถ่ายละครแล้วก็ถ่าย YouTube เวลาน้องว่างผมก็ดันไม่ว่าง พอผมว่างน้องก็ไม่ว่าง เพราะฉะนั้นที่ผ่านมามันแทบที่จะไม่ได้ทำ YouTube ให้หลายคนได้เห็น ก่อนหน้านั้นมันมีสถานการณ์CV ละครก็ถ่ายไม่ได้ เราเลยได้เจอกัน

ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันถ่าย YouTube ด้วยกัน ทุกคนก็จะได้เห็นโมเมนต์ต่างๆ แต่พอทุกอย่างตอนนี้สถานการณ์มันดีขึ้น แต่ละคนมีงานที่ต้องทำ เราก็อาจจะไม่ได้มีอะไรออกมาบ่อยเหมือนเมื่อก่อน เราก็อยากให้ทุกคนรู้ไว้ เรารู้สึกดีนะที่มีคนจับจ้องชื่นชอบคู่เรา และเป็นห่วง ผมเข้าใจดีผมกับเบสท์ก็อยากทำให้มันออกมาดีที่สุด แต่สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องที่ผมกับเบสท์จะจับมือและผ่านมันไปด้วยกันอย่างไร

อย่างน้อยเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วย ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้ว ถ่ายละครเสร็จ ผมก็กลับมาเข้ามาฟิตเนสแล้วก็มาเจอน้องที่บ้านอยู่ดี เราก็ใช้ชีวิตอยู่กันแบบนี้ ได้เจอกันอย่างน้อยมันอาจจะวันละชั่วโมง สองชั่วโมง ผมเชื่อว่าชั่วโมง สองชั่วโมงมันคุ้มค่าสำหรับเรา คือถ้ามีเวลาว่างเราก็จะอยู่ด้วยกันเป็นหลัก

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamnews