จับได้แล้วโจรบุกคลินิกเสริมความงามที่อุดร กว่า 10 ครั้ง ที่แท้มาเช่าห้องอยู่ตรงข้ามนี่เอง

จับได้แล้วโจรบุกคลินิกเสริมความงามที่อุดร กว่า 10 ครั้ง ที่แท้มาเช่าห้องอยู่ตรงข้ามนี่เอง

วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายนดล อบภิรมย์ อายุ 29 ปี ผจก.ร้านพญาคลินิกเวชกรรมสาขาอุดรธานี ตั้งอยู่เลขที่ 559/3-5 ถนนโพศรี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เยื้องๆ สามแยกวัดโพธิ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ร้องถูกโจรบุกเข้างัดเอาทรัพย์สินภายในคลินิคทั้งสายไฟ ตู้แอร์ มูลค่าเกือบ 200,000 บาท โดยคนร้ายเข้าไปมากกว่า 10 ครั้ง และทนไม่ไหวจนต้องเขียนขอร้องคุณโจร เรียนท่านขโมยที่เคารพ เนื่องด้วยแอร์ที่ท่านขโมยไปใกล้หมดแล้ว ข้างล่างโคตรร้อน ขอความกรุณาเหลือแอร์ไว้ให้ด้วยนะค่ะ” ทั้งๆ ที่บริเวณดังกล่าวอยู่ใจกลางเมืองอุดรและเป็น พื้นที่Smart Safety Zone 4.0 ของสภ.เมืองอุดรธานีอีกด้วย เจ้าของแจ้งความตร.สภ.เมืองอุดรธานี ขณะที่ผจก.คลินิคโทรหาตร.เจ้าของคดี กลับถูกด่ากลับหาว่าโทรมาก่อกวนและเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากวนซะงั้น

ล่าสุด พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตร.ชุดสืบสวนได้ร่วมกับจับกุมอบุญธง กงซุย อายุ 45 ปี พักอยู่ห้องเช่าที่อยู่ตรงข้ามคลีนิคเสริมความงามนั่นเอง โดยหลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไป ตร.เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงหน้าคลีนิคเสริมความงาม และยังเป็นพื้นที่Smart Safety Zone 4.0 ของสภ.เมืองอุดรธานี จนรู้ตัวคนร้ายไม่ใช่คนไกลที่ไหน คนร้ายพักอยู่ในห้องเช่าตรงข้ามกับคลินิกเสริมความงามนั่นเอง โดยนายอบุญธงยอมรับสาภาพตามหลักฐานกล้องวงจจรปิดบุกเข้าไปในคลีนิคเสริมงาม ตร.เข้าตรวจค้นภายในห้องเช่า พบเสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ คีมตัดสายไฟและอุปกรณ์เครื่องมือช่างที่ใช้ก่อเหตุ โดยนายอบุญธงสารภาพว่า เข้าไปขโมยทรัพย์สินในคลินิกความงามจริงและทรัพย์สินที่ขโมยมาไม่เหลือให้ดูสักชิ้นแล้ว เพราะได้เอาไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินมาก็มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและจ่ายค่าเช่า

ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวอีกว่า ในส่วนของเรื่องพนักงานสอบสวนสภ.เมืองอุดรธานีพูดจาไม่เพาะกับประชาชน โดยในคลิปเสียงตร.บอกว่าโทรมาบ่อยใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือเปล่า และได้เรียกร.ต.อ.สุขอินทร์ ราจันทร์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี พนักงานสอบสวนในคลิปเสียง เดินทางไปพญาคลินิก ถนนโพศรี เพื่ออธิบายการทำงานของตำรวจ และปรับความเข้าใจกับนายณดล อบภิรมย์ คู่กรณีอีกฝ่ายที่ปรากฏว่าในคลิปเสียง โดยทั้งสองฝ่ายได้ยกมือไหว้ขอโทษซึ่งกันและกัน และทางทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว

ข่าวโดย นาริสา หลักทอง ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดอุดรธานี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ