เต๊ะ ศตวรรษ หลังประกาศวิวาห์ น้องแพรวไพลิน เส้นทางความรักดั่งพรหมลิขิต

เต๊ะ ศตวรรษ หลังประกาศวิวาห์ น้องแพรวไพลิน เส้นทางความรักดั่งพรหมลิขิต

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่หลังจากที่ออกมาประกาศข่าวดีเรื่องงานวิวาห์ และแนะนำว่าที่เจ้าสาวดีกรีแอร์โฮสเตส แพรวไพลิน บูชานัน ให้แฟนๆ ได้รู้จักกันไปแล้ว ล่าสุด เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร นักแสดงหนุ่มชื่อดัง วัย 40 ปี ก็ได้ถือโอกาสดีออกมาเปิดใจถึงเส้นทางความรักและรายละเอียดคร่าวๆ เกี่ยวกับงานวิวาห์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม นี้

ให้เราฟังในงาน MOU ระหว่างมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญกับ PSO Academy ธุรกิจดิจิตอล ว่า ต้องขอบคุณพระเจ้านะครับที่ทำให้ผมในช่วงวัย 40 ได้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตครอบครัว ซึ่งวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ก็จะเป็นวันที่ผมและแฟนเราจะได้จัดพิธีมงคลสมรสศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งงานจะจัดขึ้นที่โบสถ์แถวๆ 3 ย่านครับ ถามว่าทำไมผมถึงได้ตัดสินใจแต่งงานในครั้งนี้

เอ่อ ผมรักเขาครับ และเขาเองก็รักผม ซึ่งถ้าจะถามว่า 6 เดือนที่เราคบหาดูใจกันถือว่าเร็วไหม บางคนอาจจะมองว่าเร็ว แต่สำหรับผมแล้ว ด้วยวัย ด้วยวุฒิภาวะ และว่าที่ภรรยาที่ใกล้จะเข้าสู่วัยเลข 3 เราก็คิดว่าเราไม่ได้เด็กแล้ว และเราก็อยากให้พระเจ้าอวยพรให้กับคู่ของเราครับ อีกอย่างคือเขาเองก็รักพระเจ้าเหมือนที่ผมรัก

และเขาก็สนับสนุนผมในพันธกิจต่างๆ ซึ่งถ้าหากเป็นคนอื่นที่เขาไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่ผมทำมันก็อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งได้ในอนาคต และที่สำคัญคือเขากับผมเราก็มีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกันด้วย เราอยู่ด้วยกันแล้วเรามีความสุข เรื่องของช่วงอายุที่ห่างกัน 10 ปี ถามว่าเป็นอุปสรรคไหม เอ่อ ถ้านับในแง่ของปีมันอาจจะฟังดูไกล

แต่ถ้านับเป็น Gen มันจะใกล้กันครับ ดังนั้นทัศนคติและมุมมองในการดำเนินชีวิตของเรามันเลยใกล้กัน อีกอย่างคือยุคปัจจุบันนี้เรื่องความเหลื่อมของช่วงวัยมันไม่น่าจะใช่ปัญหาเท่าไหร่แล้ว มันน่าจะอยู่ที่ความสัมพันธ์ของเรามากกว่า สำหรับโมเมนต์การขอแต่งงาน จริงๆ มันเป็นในลักษณะของการพูดคุยกันมากกว่าครับ ไม่ได้มีการเซอร์ไพรส์หรือทำอะไรเป็นพิเศษ

ก็คือในเมื่อเราคิดเหมือนกัน เราก็ตก ลงที่จะแต่งงานกัน ส่วนครอบครัวของทั้งสองฝั่งก็ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันแล้วด้วย เราสองคนเจอกันได้ยังไง ผมเคยบังเอิญเจอเขาเมื่อประมาณเกือบ 4 ปีก่อนบนเครื่องบินครับ ตอนนั้นผมต้องเดินทางไปทำพันธกิจที่เชียงราย แต่ก็ไม่ได้ทักทายอะไร แค่รู้สึกว่าเจอคนสวยแล้วตื่นเต้น

จากนั้นพอมาถึงช่วงราวๆ ต้นปี บังเอิญมากครับคือผมไปเจอเขาที่เฟซบุ๊ก และรู้สึกว่าหน้าคุ้นมากก็เลยลองทักไปคุย และพอเริ่มคุยกันมากขึ้นๆ จากนั้นความสัมพันธ์มันก็ค่อยๆ พัฒนาไปถึงการเป็นแฟนและมีวันนี้ครับ ตั้งใจจัดงานแต่งงานออกมาในรูปแบบไหน งานเล็กๆ ครับ ประมาณแค่ไม่กี่ร้อย

ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และก็ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝั่งเดินทางมาร่วมงาน เห็นว่าเราตั้งใจที่จะสร้างครอบครัวแล้วด้วย ตัวผมเองก็อยากจะมีโอกาสได้เล่นกับลูกของผมในช่วงวัยที่ผมยังวิ่งได้อยู่ ช่วงที่เข่าของผมยังไม่ดังเป็นประทัด ดังนั้นถ้าหากพระเจ้าอวยพร ผมก็คงต้องขอให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้ำพระทัยของพระเจ้าครับ

ทุกวันนี้ยังมีเรื่องความเจ้าชู้ของตัวเองให้กังวลอยู่ไหม ผมคิดว่าทุกคนมีโอกาสที่จะมีเชื้อบาปหรือความคิดแบบนั้นได้ครับ เพียงแต่ว่าถ้าคุณเคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว คุณเคยสูญเสียมาแล้ว และพระเจ้าให้โอกาสคุณด้วยการส่งคนดีๆ มาให้อีก ดังนั้นถ้าคุณไม่กลับใจมันก็คงจะน่าเสียดายมากๆ ครับ

เรียบเเรียงโดย ทีมงาน siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ