วันนี้ 27 มิ.ย. Corriere della Sera สื่อท้องถิ่นของอิตาลี รายงานว่า ลีโอนาร์โด เดล เวคคิโอ เจ้าพ่ออุตสาหกรรมแว่นตาชาวอิตาลี เจ้าของแบรนด์แว่นตาชื่อดังอย่าง เรย์แบน (Ray-Ban) เสียชีวิตแล้วในวัย 87 ปี

เดล เวคคิโอเกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1935 เขาเติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้าในกรุงมิลานตั้งแต่อายุ 7 ขวบ หลังแม่ของเขา ซึ่งเป็นม่าย ไม่สามารถดูแลเขาได้

เขาเริ่มทำงานเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือและสีย้อมในมิลานตั้งแต่อายุ 14 ปี ต่อมาเขาย้ายไปยังเมืองอากอร์โด (Agordo) และเริ่มธุรกิจขนาดเล็กของตัวเอง โดยรับผลิตกรอบแว่นตาที่มีคนออกให้ และก่อตั้งเป็นบริษัท ลุกซอตติกา (Luxottica) ในปี 1961 โดยมีคนงาน 14 คน บริษัทตั้งอยู่บนที่ดินที่เขาได้รับมาฟรี ๆ จากทางการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น

ช่วงปลายทศวรรษ 1960 จากเดิมที่ผลิตแต่กรอบแว่นที่คนอื่นออกแบบให้ ลุกซอตติกาก็เริ่มออกแบบแว่นตาของตัวเอง จนบริษัทขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ และในช่วงปี 1980 เดล เวคคิโอก็เริ่มเข้าซื้อบริษัทต่าง ๆ โดยการเข้าซื้อธุรกิจที่น่าสนใจที่สุดของเขาคือการซื้อเรย์แบนในปี 1999 ด้วยราคา 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.2 หมื่นล้านบาท)

ต่อมาในปี 2018 เดล เวคคิโอได้ควบรวมกิจการกับ เอสซิลอร์ (Essilor) ยักษ์ใหญ่ด้านเลนส์ของฝรั่งเศส กลายเป็นบริษัท เอสซิลอร์ลุกซอตติกา (EssilorLuxottica) ซึ่งปัจจุบันเป็นทั้งผู้ค้าปลีกแว่นตาชั้นนำของโลกและหนึ่งในผู้ผลิตเลนส์แก้ไขภาพรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเดล เวคคิโอถือหุ้นของบริษัทอยู่ 32%

นอกเหนือจากการถือหุ้นในเอสซิลอร์ลุกซอตติกาแล้ว เดล เวคคิโอ ยังถือหุ้นในบริษัททางการเงินของอิตาลี เช่น Mediobanca SpA, Assicurazioni Generali SpA และ UniCredit SpA ด้วย

ตามดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก ความมั่งคั่งสุทธิของเดล เวคคิโออยู่ที่ 2.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9 แสนล้านบาท) ณ วันที่ 1 มิถุนายน เดล เวคคิโอเป็นมหาเศรษฐีที่ไม่ค่อยปรากฏตัวในสื่อจากนิสัยที่ค่อนข้างขี้อาย แต่ในการพูดคุยกับนักข่าวเมื่อต้นปีนี้ นักธุรกิจรายนี้ถูกถามถึงวิธีที่เขาสร้างอาณาจักรของตัวเอง เขาตอบว่า ผมพยายามทำให้ดีที่สุดในทุก ๆ อย่างที่ทำได้ แค่นั้นเอง

เดล เวคคิโอกล่าวว่า ในช่วงปีแรก ๆ ที่เริ่มทำธุรกิจ เขาจะให้ความสำคัญกับการทำงานให้เสร็จก่อนสิ่งอื่นใด โดยให้เวลากับลูก ๆ และครอบครัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เสริมว่า ช่วงหลังมานี้ เขาได้ชดเชยเวลาให้กับครอบครัวแล้ว

เรียบเรียงจาก Bloomberg